ทั่วไป

ทั่วไป

7 วิธีเลือกนายหน้า ไม่ต้องกลัวเจอดราม่า

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 29 พฤศจิกายน 2564 17:47
ทุกอาชีพย่อมมีคนไม่ดีปะปน เพื่อคอยจ้องฉวยโอกาสเอาเปรียบจากผู้ที่ไม่รู้ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ ยิ่งไม่เข้าใครออกใครซึ่ง นายหน้าอสังหาฯ เป็นหนึ่งในอาชีพที่ถ้าเจอคนไม่ดีเข้าแล้วล่ะก็มีเจ็บหนักกันบ้างล่ะ ฉะนั้นถ้าอยากได้นายหน้าที่เป็นมืออาชีพ เรามีวิธีในการเลือกที่ไม่ยากเลย
สื่อสารได้เก่ง มีสาระ
เพราะหน้าที่นี้ต้องติดต่อพูดคุยกับผู้คนเป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียด มีการทำสัญญา เงื่อนไขต่างๆ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายหลายบาท ฉะนั้นการสื่อสารที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยการพูดเนื้อหาสำคัญที่ซับซ้อนให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่าย อีกทั้งยังต้องมีทักษะในการโน้มน้าวใจคนโดยไม่โกหกหรือหลอกลวง เพื่อให้เลือกซื้อหรือเช่าอสังหาฯ ของลูกค้าที่นายหน้าดูแลอยู่
มากความรู้ มากประสบการณ์
ควรสอบถามขอข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับอาชีพนี้ ก่อนตัดสินใจจ้างนายหน้าสักคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาการทำงาน ผลงานที่เคยทำมาขายได้กี่หลังปล่อยเช่าได้กี่ห้อง มีหลักฐานชัดเจน ดูความน่าเชื่อถือลองพูดคุยแล้วสังเกตว่ามีความรู้จริงรึเปล่า หรือถ้านายหน้าคนไหนอยู่ในบริษัทไม่ได้เป็นเจ้านายตนเอง ก็ต้องดูว่าบริษัทจัดตั้งมากี่ปี มีการชมหรือมีข้อร้องเรียนจากลูกค้าคนอื่นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งยิ่งมีความชำนาญมีประสบการณ์ในทางที่ดีมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีต่อผู้ว่าจ้างมากเท่านั้น
ฐานลูกค้าเยอะ
การมีลูกค้าเยอะก็หมายความว่า มีฐานลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลาย ทำให้หาคู่ที่ตอบโจทย์กับอสังหาฯ ของเราได้ไว ช่วยให้บ้านหรือคอนโด ที่เราต้องการปล่อยเช่าหรือขายได้รวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ตัวลูกค้าที่อยู่ในมือของนายหน้าเอง ก็มักจะบอกปากต่อปากขยายเป็นวงกว้างออกไปอีก และอย่างที่รู้กันว่าลูกค้าจะกระจายอยู่ตามช่องทางต่างๆ ตัวนายหน้าเองจึงต้องมีสื่อในการเผยแพร่มากตามไปด้วย ส่งผลให้มีลูกค้าใหม่เห็นสิ่งที่เราจะขายเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ปรับเปลี่ยนเวลาได้ดั่งใจ
เวลาการทำงานเข้าออกไม่เป็นเวลาและไม่มีวันหยุดที่แน่นอน ลูกค้าอาจว่างตอนเย็นหรือว่างแค่วันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเราก็ต้องพร้อมรับมือให้ได้ จึงต้องมีความยืดหยุ่นในเรื่องนี้พอสมควร อีกทั้งลูกค้าต้องการให้ขายออกได้เร็วที่สุด เราก็ต้องพยายามทำให้สำเร็จ หรือถ้าติดขัดเวลายังไงก็สามารถพูดคุยกันได้ ที่สำคัญคือการตรงต่อเวลานัดดูห้องวันไหนกี่โมงก็ควรเป็นตามนั้น ไม่เลื่อนนัดฉุกละหุก
เชี่ยวชาญในพื้นที่นั้นๆ
นายหน้าจำเป็นต้องรู้รายละเอียดว่าทำเลนั้นๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรรายล้อมอยู่ ใกล้จุดเด่นสำคัญไหนบ้าง รวมไปถึงการเดินทาง ซึ่งบางทำเลมีตรอกซอกซอย ในการลัดทะลุออกไปทางนู้นทางนี้ ส่งผลให้นายหน้าต้องสำรวจสภาพแวดล้อมก่อนพาลูกค้าไปดูของจริง แต่ถ้าได้นายหน้าเป็นคนในพื้นที่แถวนั้น ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่เพราะนั่นแปลว่าเค้าต้องรู้ลึกรู้จริงแน่นอน
เงื่อนไขในการตกลงทำงานด้วยกัน
นายหน้าที่ดีจะต้องบอกเงื่อนไขการทำงาน กับลูกค้าก่อนจะตัดสินใจรับจ้าง ทั้งในเรื่องของการทำงาน มีหน้าที่ทำอะไรให้ลูกค้างบ้าง ระยะเวลาในการจัดการ และดูสัญญาว่าเป็นแบบเปิดหรือแบบปิด คือถ้าเป็นแบบปิดเราจะไปจ้างนายหน้าคนอื่นไม่ได้อีก นายหน้าต้องแจ้งทุกอย่างให้ครบถ้วน
ค่าใช้จ่ายบริการ
ตามหลักค่าใช้จ่ายในการจ้างนายหน้าจะไม่เกิน 5% ของราคาซื้อขาย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3% อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความยากง่ายของอสังหาฯของลูกค้าด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างค่าเดินทาง ซึ่งอาจรวมอยู่ในเปอร์เซ็นต์นั้นหรือลูกค้าต้องจ่ายต่างหาก แต่ควรทำการตกลงให้เรียบร้อยและชัดเจน
เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจนนำไปสู่ดราม่าได้ วิธีเหล่านี้จะทำให้เรารู้แล้วว่า นายหน้าอสังหา ที่มีความโปรในหน้าที่ต้องมีลักษณะอย่างไร ต่อเนื่องไปถึงรู้ว่าคนไหนเหมาะสมแก่การดูแลบ้านหรือคอนโดของเรา เพื่อให้ได้ขายออกเร็วปล่อยเช่าก็ไว ตัวนายหน้าเองก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า แบบที่เรียกว่า Win Win ทั้งสองฝ่าย

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม