ได้ไอเดียเรื่องสไตล์ การบริหารเวลา มาฝาก ลองอ่านดูนะคะ...ว่าตอนนี้ใครเป็นสไตล์ไหนอยู่ และควรปรับปรุงตรงไหน
ถ้าเป็นสมัยที่ยังเขละขละ ไร้ระเบียบ ก็คงทั้งป่วย ทั้งกังวล ว่าจะทำอะไรไม่ทัน ต้องหลุด ต้องลืม ถูกลูกค้าตำหนิระนาวแน่ๆ
คนกลุ่มนี้จะรู้สึกว่างานในความรับผิดชอบของตนนั้นมากมาย ท่วมท้น ทำไม่ทัน ผลักดันเท่าไหร่ก็ไม่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า เลยชอบไปรับเอาเรื่องชาวบ้านเขามาทำ เพื่อให้รู้สึกว่า ได้ทำอะไรสำเร็จบ้าง
ถึงจะไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของตนเองก็ตาม พวกเขามักพึ่งพิงการชื่นชม ตัดสิน ประเมินค่าจากคนอื่น ไม่เป็นตัวของตัวเอง และทำให้เกิดประเด็น ส่งงานล่าช้า วางแผนงานไม่เป็นระบบ และบางครั้งทำงานมากเกินไปโดยไม่พัก (ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าทำแล้ว ตั้งแต่ต้น)
Time Martyrs มักเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว แต่นักผัดวันประกันพรุ่งนั้นหนักกว่า เพราะเลือกที่จะเลื่อนงานตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ได้ช่วยใคร และมักกล่าวว่า ตัวเองทำงานได้ดีในภาวะกดดัน ตอนจวนตัว ใกล้หมดเวลา
กลุ่มนี้ก็มีปัญหาส่งงานไม่ทัน วางแผนงานไม่ดี และมักจะทำหลายอย่างมากเกินไปในเวลาเดียวกัน จนไม่สำเร็จสักอย่าง
อยากทำงานให้เสร็จนะ แต่ถูกรบกวน และถูกดึงความสนใจง่ายเหลือเกิน คำถามจากเพื่อนข้างโต๊ะ โทรศัพท์ หรือข้อความเข้า ก็ต้องรีบไปเช็ค และจมอยู่อยู่กับสิ่งไม่ใช่ความเร่งด่วนนั้นๆได้นานเป้นชั่วโมง กว่าจะกลับมาทำงานใหม่ได้
กลุ่มนี้ ใช้ชีวิตอยู่เหนือความเป็นจริง คิดเอาง่ายๆว่าเรื่องนี้น่าจะเสร็จเร็วกว่าที่ปกติเขาทำกัน ทำให้เผื่อเวลาในการดำเนินงานน้อยเกินไป มีความรีบเร่ง ผิดพลาด หรือสุดท้ายงานไม่เสร็จได้เช่นกัน เพราะวางแผนไม่เหมาะสม
ใช้ชีวิตยุ่งตลอดเวลา ทำเยอะๆ หลายอย่าง ทำเร็ว งานจบก็ไม่พัก เอาอีก ทำอีก เพื่อให้รู้สึกดีกับความสามารถในการทำได้เยอะของตัวเอง แน่นอน กลุ่มนี้ ก็เห็น Burn out อยู่รำไรๆ นะคะ
คุณคือผู้อยู่ตรงกลางระหว่างนักผัดวันประกันพรุ่ง กับ นักขัดจังหวะ อย่างน้อยๆ คุณจะทำงานเสร็จนั่นแหละ แต่ก็ใช้เวลามาก เพราะอยากให้ทุกอย่างออกมาดี ดีแล้วก็หยุดตัวเองไม่ได้ แต่งปรับ แก้ กันอยู่นั่น บางทีแก้จนส่งงานไม่ทันก็มี และมักลงเอยด้วย Burn out เช่นกัน