เห็นคนจีนเริ่มหาบ้านและคอนโดตามโซนต่างๆ จนมีคนถามว่า เค้าเข้ามาทำอะไรกันเยอะมาก ?
คือแบบขาวกับแบบเทา
ถ้าให้อธิบายหมดจะยาวมากแน่ๆ
ดังนั้นครั้งนี้ขออธิบายแบบเทาก่อนละกัน
ป่ะ....ลุย!!!
ก็มักจะเข้ามาด้วยประเภทวีซ่าอยู่ 3 แบบ
คือแบบนักเรียน, นักท่องเที่ยวและธุรกิจ
ที่คนจีนเข้ามาจะตรงกับประเภทวีซ่า
เพราะพวกทำธุรกิจก็เห็นเข้ามาแบบวีซ่านักเรียนก็เยอะ
หรือถ้าเค้าตั้งใจจะเข้ามาทำธุรกิจแบบจริงจังเลย
และมองว่าตัวเองนั้นน่าจะเข้าออกประเทศบ่อยๆ
ก็จะทำวีซ่าแบบ Elite ไปเลย
ซึ่งค่าใช้จ่ายวีซ่าแต่ละประเภทก็จะมากน้อยแตกต่างกันไป
นั่นคือการที่คนจีนเข้ามาทำธุรกิจในไทยแบบแฝง
จากข้อมูลที่เก็บมา 8 เดือน
จะมาอธิบายให้ฟัง
ว่าคนจีนเข้ามาทำธุรกิจแบบแฝงอะไรในไทยบ้าง
เข้ามาในรูปแบบบริษัท
ที่มีนอมินีคนไทยถือหุ้นอยู่
แต่นอมินีไทย
จะไม่มีอำนาจและผลประโยชน์ใดๆกับบริษัท
(ซึ่งเค้ามีการเซ็นสัญญากันไว้แล้ว)
ตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพและตามหัวเมืองใหญ่ๆ
ที่เป็นแลนมาร์คตามแต่ละสถานที่
แต่ในทุกๆ ที่
ก็จะมีคนจีนอยู่เบื้องหลังเช่นกัน
ทำให้รายได้ไม่เข้าถึงคนไทยตามที่ควรจะเป็น
ที่คนจีนเข้ามาเปิดธุรกิจร้านอาหารในไทย
อย่างมณฑลห้วยขวางที่ผมอาศัยอยู่
ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญในปัจจุบัน
กลายเป็นร้านอาหาร
และร้านขายของทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แค่ขับรถผ่านไปผ่านมา
ก็ได้กลิ่นหมาล่าติดตัวกลับบ้านไปทุกวัน
ว่าบางร้านไม่มีคนเข้าไปใช้บริการเลย
แต่ยังสามารถเปิดได้อยู่ทุกวัน
ธุรกิจนี้เอามาบังหน้ากับเรื่องอะไร ?
เป็นการเบี่ยงช่องทางการเงินในทางบัญชี
รายรับรายจ่ายที่มีการหมุนเวียนจากธุรกิจอื่น
จะถูกโยกไปอยู่ในบัญชีร้านอาหารทั้งหมด
เราจะไม่สามารถทราบเลย
ว่าร้านนี้มีคนมาใช้บริการจริงหรือไม่
ดังนั้นการมีธุรกิจที่มีหน้าร้านจริง
จะเป็นตัวรับหน้าในระบบการเงินได้เป็นอย่างดี
เหมา floor หรือเก็บ Big Lot เกือบทั้งโครงการ
เพื่อเอาไปปล่อยเช่าต่อ
อาจจะดีกับมุมมอง Dev (ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์)
ที่สามารถ sold out project ได้ไว
แต่หารู้ไม่ว่า
มันเป็นการทำลายราคาตลาดเช่า
ของคนไทยด้วยกันเองในระยะยาว
ด้วยมุมมองการลงทุน
ของคนไทยกับของคนจีน
ยังแตกต่างกันอยู่
คนไทยจะเน้นการคำนวณตอบแทน Yield (ยิว) เป็นหลัก
แต่คนจีนไม่มองตรงนั้น
เค้าไม่สนเรื่องของ Yield
เค้ามองแค่ให้มีกระแสเงินสดเข้ามาในแต่ละเดือนคือเป็นพอ
ทำให้ราคาปล่อยเช่าถูกดั้มพ์ราคาลง 20-30%
ยิ่งช่วงโควิดลดหนักถึง 50%
จากราคาที่ควรจะเป็น
สุดท้ายนักลงทุนไทยจะปล่อยเช่าได้ยากขึ้น
คนจีนที่มีเงินหนามากๆ
มักจะเข้ามาทำธุรกิจประเภทนี้ในการฟอกเงิน
เพราะธุรกิจอสังหาฯ
เป็นธุรกิจที่สามารถรองรับVolume เงินก้อนใหญ่ได้เป็นอย่างดี
แต่หารู้ไม่ว่า
เบื้องหลังของธุรกิจประเภทนี้
คือการอำนวยความสะดวก
ในการออกวีซ่าที่ผิดกฎหมายให้กับคนจีน
โรงแรม / โฮสเทล / ตึกทั้งตึก หรือแม้กระทั่งคอนโดหลายทำเล
เพื่อปล่อย Airbnb
ซึ่งถ้ามองในลักษณะของธุรกิจอาจจะยอมรับได้
เพราะถ้าไม่ใช่คอนโด
กฎหมายก็เอื้อให้อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท
สามารถปล่อยชั้นระยะสั้นได้
แต่ต้นทุนที่ถูกที่สุดของการทำ Airbnb
คือการเอาคอนโดมาปล่อยเช่าระยะสั้น
เพราะถ้าเป็นบ้านหรือ Hostel
อาจจะยังมีต้นทุนที่ต้องดูแล
ในส่วนของตัวบ้านและส่วนบริเวณรอบนอก
ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์ บันไดทางเข้าออก
หรือส่วนของ co-working space
แต่คอนโดไม่มีต้นทุนในส่วนนั้น
เพราะค่าส่วนกลางในคอนโดเช่า
ได้ถูกรวมอยู่ในค่าเช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จะเห็นนายหน้าวิ่งหาที่ดินหรือสถานที่ให้เช่า
เพื่อเอามาประกอบกิจการสถานบันเทิงตอนกลางคืน
ย่านทองหล่อ เอกมัย พร้อมพงษ์ รัชดา ห้วยขวาง อยู่เรื่อยๆ
รู้มั้ยว่าทุกวันนี้
กิจการดังกล่าวเป็นของคนจีนเกือบทุกเจ้าแล้ว
บางเจ้าก็ยังเป็นชื่อเดิม
บางเจ้าเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่
ธุรกิจนี้เริ่มคืบคลานเข้ามา
ตั้งแต่สมัยสถานบันเทิงแถวรัชดาเจ้านึงเปิดแล้วปัง
มันเลยทำให้กิจการนี้เป็นที่สนใจของคนจีนมากขึ้น
ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด
และพื้นเดิมผู้ประกอบการคนไทย
ก็เริ่มเอือมระอากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
เลยเป็นจังหวะที่ทำให้ธุรกิจนี้
ถูกเปลี่ยนมือจากคนไทยไปคนจีนหลายเจ้า
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ธุรกิจประเภทนี้
แฝงอยู่ในทุกพื้นที่
ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิงทั่วไป
แต่รวมไปถึงตึกแถว/อาคารพาณิชย์/ทาวน์เฮ้าส์
รวมถึงบ้านหรูหลักสิบล้าน
และมีช่วงนึงที่เริ่มมีปัญหาเพิ่มขึ้น
เพราะนำยาเสพติดหลายประเภทเข้ามาร่วมด้วย
และคนจีนหลายคนก็ฉลาด
รู้ว่าต้องเคลียร์กับใคร ต้องจ่ายกับใคร
ด้วยทุนจีนเทาที่หนากว่าคนไทยเฉลี่ย 3-5 เท่า
ปลายทางเป็นแบบไหน เราทุกคนคงรู้กัน
กำลังมันส์ใช่มั้ย
ไปต่อกันที่เพจ เจ้นท์เจี้ยวจ้าว นะครับ
ลิ้งค์ใต้คอมเม้นท์เลย