เกี่ยวกับคนเขียน
Naowarat

แชร์ประสบการณ์

แชร์ประสบการณ์

วันเสาร์ เราขอมู 😄 ใครจะรู้ ช่วยได้จริงๆ

Naowarat
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 15 กันยายน 2566 13:32
"พี่โอ๋คะ พี่ดูสตรอง ดุดัน ชัดเจนขั้นสุดงี้ พี่มูมั้ยคะ"
หันไปมองหน้าคนถาม แล้วตอบว่า " ถ้าไม่ได้มาขายอสังหาฯ พี่คงเปิดตำหนักทรง หรือเป็นหมอดู full time ไปแล้วค่ะน้อง...ดีว่ามาทาง Business จึงไม่ได้เลือกไปทาง Spiritual ขั้นสุด"
"เฮ้ย! พี่ จริงดิ?"
เชื่อในพลังงาน และบ้านทุกหลังมีเจ้าของค่ะ สิ่งใดที่เป็นของคนๆนั้น ใครก็แย่งชิงไปไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายถึงการละเลย ไม่ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่นะคะ
คนทำธุรกิจจะสำเร็จได้ ต้องมีอิทธิบาทสี่ ใส่ใจ รัก รับผิดชอบ พัฒนาในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็เอากระทง ห่อขนมหวาน หมูเห็ดเป็ดไก่ ผลไม้ ใส่ถาด ปักธูปหน้าคอนโด คล้องมาลัยเจ้าที่ ต่อรองกับผี แต่ไม่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี สมกับที่ลูกค้าไว้ใจก็ใช้ไม่ได้นะคะ
คนทำนายหน้าอสังหาฯ ต้องมีพรหมวิหารสี่ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา ในการดำเนินธุรกิจ
ต้องรัก และมีใจอยากช่วยลูกค้า เป็นมืออาชีพ เป็นกลางในการทำงานอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม มุ่งให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด ยินดีที่เขาขายได้ จิตใจเบิกบานเมื่อนำเช็คก้อนโตไปให้เขา และภูมิใจ พอใจกับสิ่งที่เราได้รับตามข้อตกลง เมื่องานสำเร็จ
ไม่กดตัวเองให้ลงต่ำ ไม่เหยียบย่ำคนอื่นเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น เพราะคนทุกคน มีคุณค่า รวมทั้งตัวเราเองด้วย
คนเรา ถึงจะอาศัยในพื้นที่ฮวงจุ้ยแย่ แต่ปัดกวาดให้สว่าง สะอาด เจ้าของผู้อยู่อาศัย เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สวดมนต์ ทำบุญเป็นนิจ ภาวนาจิตสม่ำเสมอ นั่ง เดิน ยืน นอน ก็ภาวนาเอาไว้ วิญญาณร้ายใดๆก็ไม่อยากทำร้ายคุณค่ะ เพราะเขาได้บุญไปด้วย
เพราะผู้เจริญ ทำให้เกิดสนามพลังงานดี อย่างที่เรียกว่าทำให้แผ่นดินสูงขึ้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาเพราะเป็นบุคคลมีประโยชน์ ถ้ายังไม่ถึงคราวตาย ก็จะมีคนช่วยไว้ เจ็บป่วยก็จะได้หมอดีรักษา ขนาดบางคนโดนทำของ ยังหลุดได้เอง จากการสวดมนต์ภาวนาต่อเนื่องค่ะ
เพราะธาตุสะอาด และของสกปรกมันอยู่ร่วมไม่ได้
อ้อ กรณีขายบ้าน แล้วลูกค้ากลัวมีผีติดมาด้วย ก็แนะนำลูกค้าให้เคลมสิทธิ์ตามโฉนดค่ะ บ้านเรา ซื้อแล้ว มีโฉนดตราครุฑ ถูกกฎหมาย ผีตนไหนก็ไม่มีสิทธิ์ และไม่ต้องกลัวค่ะ 🙂

ผีจะเหนือเราได้ เพราะเรากลัว บ้านเรา เรามีสิทธิ์ไล่ผีออกไปค่ะถ้าดื้อ เชิญดีๆไม่ออก 😊
การทำงาน คือการปฏิบัติธรรม
กรรม จะครบองค์ประกอบ เกิดเป็นผลลัพธ์จับต้องได้ ก็ต้อง คิด พูด ทำ ให้เข้มข้นเพียงพอ จึงจะเกิดผลลัพธ์ในโลก 3 มิติ เพราะกฏเกณฑ์ของโลกเป็นแบบนี้

จึงเป็นเหตุผลให้ ทำงานไปก็ต้องบันทึก ตรวจเช็คผลลัพธ์เสมอ ว่าเข้มข้น เพียงพอ ถูกทางหรือยัง

ทำดีแล้วต้องฉลาดด้วย หลักกาลามสูตร ต้องใช้เสมอ อย่าเชื่อง และเชื่อง่ายเกินไป
เพราะ
เชื่อแบบมีปัญญา เรียกว่า ศรัทธา
เชื่อแบบไม่มีเหตุผลรองรับ เรียกว่า งมงาย

ดังนั้น อย่าคิดว่า บนบานศาลกล่าว เผากงเต๊ก ติดสินบนเทวดา อย่างเดียว แล้วเฝ้ารอ จะทำให้มีผลลัพธ์นะคะ เพราะคุณจะต้องรอต่อไปค่ะ
เนื่องจากเทวดา และจิตวิญญาณที่ดี ก็กำลังยุ่งในการสนับสนุนคนดี คนขยัน เป็นล้านๆคนบนโลกนี้ เช่นกัน

ส่วนคนที่ขยันไหว้ ขยันจ่ายตังค์ค่าเครื่องเซ่น แต่ไม่ลงทุนโฆษณา ไม่ตรวจสอบ ไม่ติดตามลูกค้า ไม่ทำอะไรที่ควรทำ ก็ถือว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ และถือว่ายังไม่พร้อมรับเมล็ดพันธุ์ของความสำเร็จ ก็จงรอไปอีกหน่อยละกันนะ
เครื่องรางของขลังสำหรับนายหน้าฯ
ไปไหนมาไหน ไม่เคยคล้องพระเครื่อง เนื่องจากไม่สะดวกห้อย หรือ แขวนอะไรใดๆทั้งนั้น เพราะเคลื่อนไหวรวดเร็ว ต้องการความคล่องตัวสูงในการทำงาน มีแค่รูปครูบาอาจารย์บนหน้าจอโทรศัพท์ เป็นพุทธานุสติ
ไม่กลัวผี แต่ไม่ใช่ไม่เคยสัมผัสเรื่องวิญญาณ การนอนตามที่แปลกๆ ถึงจะรู้ๆว่าไม่ได้อยู่คนเดียว ก็สามารถนอนได้ กลางป่ากลางดง สวดมนต์ไปก็หลับดีไม่มีปัญหา ถึงจะมีอะไรมากล้ำกราย ก็จะรู้ตัว แก้ไขได้ก่อนไหลตาย หลงตาย

เพราะผีคุยง่าย แต่คนนั้น ซับซ้อนน่ากลัวกว่าเยอะ ผีก็แค่อยากได้แค่บุญ แต่คนใจคด ขี้อิจฉาริษยา โลภมาก อันตรายกว่าผีชนิดทิ้งกันไม่เห็นฝุ่น ผีน่ะเหรอ เจอคนสตรอเบอรี่เข้า ผีต้องอายในชั้นเชิงการหลอก และทักษะการสตอบอแหลไปเลย
สมัยก่อน ตอนที่ไม่รู้เรื่อง ก็ใช้วิธีขยันๆๆๆทำงาน ดุดัน กดดันลูกค้า แบบคาดคั้นเอาผลลัพธ์ ไม่ได้ผลลัพธ์ก็โทษโชคชะตา โทษพ่อแม่ โคเอเจน เจ้าของ ลูกค้า ชี้นิ้วออกนอกตัวเองเสมอ

ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ปล่อยวางไม่เป็น ควบคุม บังคับทุกอย่าง เพราะจิตใจเล็กนิดเดียว กลัว และไม่สามารถไว้วางใจอะไรได้เลย จนเครียด เหมือนคนบ้า สุขภาพแย่ ไม่มีความสุข
พอรู้จักสวดมนต์ ภาวนา แบบเดินไปสวดไป สวดทั้งวันทั้งคืน ยกเว้นแค่เวลาพูดกับคน ได้ย้ายจิตไปอยู่กับบทสวดที่มีพลังงานดี ก็หลุดจากหลุมสกปรกของความกลัว และวิตกกังวลได้บ่อยขึ้น นานขึ้น จิตมีพลัง ใช้งานได้ดี สมอง ร่างกายปลอดโปร่ง สามารถหลุดจากนรกได้ก่อนตาย
ได้มองเห็นความเป็นธรรมดา ไม่ว่าเห็นสิ่งที่เรียกว่า ผี คน หรือความคิด อารมณ์ ความรู้สึกใดๆ ก็รู้ว่าล้วนชั่วคราว จึงสามารถอยู่กับโลกได้อย่างราบรื่นขึ้น อยากรู้อะไร ก็ถามจิตตัวเอง เรียนรู้การตั้งจิตให้มั่น และเบา

ฝึกฝนและทดสอบการรู้ของตนเอง ไม่กด ไม่ข่ม ไม่เร่ง จนใช้งานจิตได้ในระดับหนึ่ง ที่สามารถดูแลร่างกาย จิตใจและชีวิตอย่างพอเหมาะ เป็นประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่นได้ โดยไม่ต้องทำอาชีพหมอดู หรือเข้าทรงใดๆ
ถึงจะชอบทาปากแดง แต่งหน้าจัดๆ และหัวเราะดังๆ แบบมนุษย์ธรรมดา ก็รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องแขวนป้าย ใส่ยูนิฟอร์มปฏิบัติธรรมว่ากำลังขัดเกลาจิตใจตัวเองอยู่

สวดมนต์แล้วจะรวยนะ บทไหนก็สวดไปเถอะ เอาที่สวดได้ สบายใจ
เพราะอะไร?

เวลาสวดมนต์ ใจมันเบา ไม่หาเรื่องใส่ตัว ไม่เผือก ไม่เครียด หน้าตาผ่องใส ใครเห็นก็อยากทำงานด้วย พูดอะไรใครก็อยากฟัง แม้แต่คนที่เกลียด หรืออิจฉา

ก็ยังมาแอบฟังเลย เพราะมันร่มรื่นใจ เมื่อมีโอกาสดีๆมาถึงก็จะได้ยิน จะรับได้ เพราะไม่ถูกปิดกั้นด้วยอารมณ์เสีย
เงินนั้นเป็นพลังงานรูปหนึ่ง เป็นอำนาจ เป็นธาตุมีค่า หากอารมณ์ดี คลื่นทางใจ ก็ตรงกับเงิน และคนที่มีเงินที่พลังงานดี เขาก็อยากจะค้าขายด้วย
และนั่นเป็นสาเหตุให้ ทำไม? ทำอสังหาฯ ต้อง อารมณ์ดี

❤️ขอให้รวย และมีความสุขทุกท่าน ทุกคน นะคะ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม