ใกล้ปีใหม่แล้ว อยากเขียนเพื่อเป็นของขวัญเตือนใจคนอยากมีบ้านหลังแรก 🏠
ต้องการทำงานกับผู้คนที่หลากหลาย แต่ไม่เคยลืมการตอบแทนคนไทยในบ้านเดียวกันค่ะ ครั้งใดที่ได้ขายบ้านให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรก หัวใจมันสั่นสะเทือน เหมือนได้เป็นเกียรติ เป็นส่วนหนึ่งกับก้าวสำคัญในชีวิตของเขา
แต่อย่าลืมนะคะว่า ห้องนอนที่เราเช่าอยู่ 4-5 พันนั้น ทำให้เรายังมีเงินเหลือในการใช้ชีวิตอย่างคล่องตัว มีเงินส่งให้ที่บ้าน เติมเงินค่าโทรศัพท์ ไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้บ้าง เราไม่เครียดมากนัก แต่ถ้าเราเริ่มส่งบ้าน ถึงแม้ปีแรกๆ ดอกเบี้ยจะถูก แต่ค่าผ่อนบ้านรายเดือนก็มักจะดีดขึ้นไปเป็นหลักหมื่น ซึ่งอาจหมายถึง 1ใน3 ของรายรับ
และมีใครในที่นี้ ตรวจตารางผ่อนของแบงค์ก่อนทำสัญญาบ้าง? เชื่อว่าไม่มีหรอกค่ะ ไม่งั้นจะมีดราม่า แบงค์โหด ตัดแต่ดอกไม่ตัดต้นรึ ทั้งๆที่เขาก็ปริ้นให้ดู หนาเป็นปึ๊งๆ ตั้งแต่เริ่มทำสัญญา เช็คดูค่ะ ว่าเราไหวไหม?
ถ้าไม่เคยตัดใจเก็บเงินก้อนใหญ่ๆ รัดเข็มขัดตัวเองแน่นๆ ก็เหมือนคนไม่เคยยกน้ำหนัก จู่ๆมายกลูกเหล็ก 20 กิโลกรัม ในขณะที่ยังมีกล้ามเนื้อนิดเดียว มันไม่ง่าย และทำให้คุณเครียด เกินความจำเป็น เมื่อใดที่เครียด สมองและการตัดสินใจก็ไม่ดี มันจะพาลให้ระบบรายรับรายจ่ายคุณเริ่มแย่ หากปรับตัวไม่ได้ผ่อนไปไม่กี่เดือน ก็จะเริ่มไม่ไหว
จะดีกว่าไหม หากซ้อมผ่อนบ้าน ด้วยการหักเงินรายได้ ก่อนนำไปใช้จ่ายเรื่องใด เก็บ30% เป็นค่าบ้าน ฝึกเก็บเงิน ระลึกถึงการเรียกเงินกลับเข้ากระเป๋าให้เคยชิน ก่อนการจ่ายทุกอย่าง เช็คดูสิว่า เราไหวไหม แย่สุดถ้าในหกเดือน เกมส์นี้เราแพ้ เราก็แค่มีเงินเก็บเพิ่มเป็นก้อน แต่ถ้าทำสัญญากู้ธนาคาร ลากพี่น้องมากู้ร่วม เอาเงินแม่มาดาวน์ คุณต้องเป็นหนี้จริงๆ ไปอีก 30 ปี ทีนี้ล่ะ ฝันร้ายของจริง
สิ่งนี้เป็นการประเมินศักยภาพในการเป็นหนี้ของคุณค่ะ เงินเดือนเท่านี้ คุณจะซื้อบ้านได้เท่าไหร่ ผ่อนเดือนละประมาณเท่าไหร่ ซึ่งถ้าทำกับธนาคารที่คุณรับเงินเดือน จะมีความน่าเชื่อถือเกือบ 95% ที่จะกู้ผ่าน หากคุณตัดสินซื้อ และสามารถจบกระบวนอนุมัติการกู้ได้ใน 2-3 สัปดาห์ คิดเรื่องกู้ให้ผ่าน ก่อนข้ามไปขอดอกเบี้ยถูกนะคะ
ทำพรี แล้วดีอย่างไร?
ไปโครงการไหน เซลก็ชอบค่ะ เพราะคุณคือคนที่มีกำลังซื้อ มีเงินเดือนที่เพียงพอ และพร้อมในการผ่อน การต่อรองราคาขอโปรต่างๆ จะได้รับการจัดให้อย่างเต็มที่ ขอให้ซื้อกับเขาเถอะ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนไทยส่วนมากไม่รู้เรื่องนี้ ถามเรื่องการเงินก็ไม่บอกหรอกค่ะ "ผ่อนได้อยู่แล้วค่ะ กู้ได้อยู่แล้วค่ะ" แต่สุดท้ายกู้ไม่ผ่าน เสียเงินจอง เสียเวลา
บ้านโครงการ หรือคอนโดใหม่ มีแนวโน้มราคาสูงกว่าบ้าน คอนโดมือสอง เพราะราคาที่ดินที่เขาซื้อมาแพงกว่า อย่าหลงไหลไปกับความสวยงามอย่างเดียวนะคะ ถ้าราคามันแพงกว่าเพื่อนบ้านมากๆ ให้คิดไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งจำเป็นต้องขาย ใครจะซื้อบ้านคุณ?
"บ้านชั้นสวยกว่า ใหม่กว่านะ บิ้วอินเยอะ ก็ต้องแพงกว่าบ้านมือสองแถวนี้อยู่แล้วล่ะ"
แต่อย่าลืมนะคะว่า อีกไม่กี่ปี บ้านคุณก็จะเก่าเหมือนกัน แล้วคนในอนาคต ทำไมเขาต้องซื้อบ้านคุณด้วย ในเมื่อแพงกว่าบ้านหลังอื่นตั้ง 20-30% ถามตัวเองเลยว่า ถ้าคุณเป็นผู้ซื้อ ณ เวลานั้น คุณจะซื้อบ้านตัวเองไหม? เพราะอะไร?
ถ้าตอบไม่ได้ และเงินเย็นไม่พอที่จะปล่อยบ้านไว้ให้นกพิราบอยู่ตอนคุณย้ายไปโดยไม่เดือดร้อนแล้ว การซื้อบ้านมือสอง ราคาดีๆ มารีโนเวท เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
แต่คนที่มีบ้านหลังแรก ไม่ค่อยทำหรอกค่ะ อาจจะขาดความรู้ และมันเป็น "กรรม" ค่ะ ที่ทำให้หูตาพร่าพรายไปกับความสวยงาม และตกเป็นทาสการตลาด เราเลยมีหนี้ครัวเรือน หนี้ NPL และดราม่าบ้านบังคับคดีที่ไม่ยอมย้าย และทะเลาะ ทำร้ายเจ้าของใหม่ให้เห็นเป็นข่าว
เอาแค่ สามข้อพอค่ะ เดี่ยวคนบ้านหลังแรกจะไม่อ่าน 😄😄 เพราะมันยาวเกินความสนใจเขาแล้ว
สิ่งที่แตกต่างระหว่างคนไทย กับต่างชาติ ที่เห็นชัดๆในการซื้อบ้าน คือ ต่างชาติจะหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจเยอะมากก่อนซื้อ โดยเฉพาะชาวตะวันตก หรือแม้แต่ชาวจีนที่เห็นเขาซื้อกันโครมๆนี้ ก็ดูเยอะ และต่อราคาแหลกราญ เพื่อให้ได้ดีลที่ดีที่สุด
ส่วนคนไทย เน้นแบรนด์ และความสวยงามมาเป็นอันดับต้นๆ การหาข้อมูลเปรียบเทียบ และการตั้งคำถามเกี่ยวกับทรัพย์ น้อยมากๆ
ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่าใคร แต่อยากให้เราคนไทย ใช้สติและเหตุผลมากๆ ก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ ก้อนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตค่ะ
ขอให้ผู้อ่าน มีความสุข ปลอดหนี้ มีบ้านดีๆ อยู่อาศัย ทุกท่านทุกคนค่ะ