ความรู้

ความรู้

เคสลูกค้าสนใจซื้อที่ดิน ถ้าไม่อยากเสียเวลาทำงานโดยเปล่าประโยชน์ ควรมีการตั้งคำถามเพื่อคัดกรองลูกค้าตัวจริงตามนี้

matching
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 31 มกราคม 2567 14:06
เวลาใครมาถามหาทรัพย์
อย่างเช่นหาซื้อที่ดินในเมือง
ไม่ว่าจะน้องเอเจ้นท์หรือลูกค้า
รบกวนกรุณาทำการบ้านมาก่อนด้วย
ไม่งั้นจะเจอคำถามแบบนี้

1.ซื้อไปทำอะไร
2.งบเท่าไหร่
3.ทำเลคือที่ไหน อย่าบอกคร่าวๆว่าในเมือง ในเมืองของคุณคือที่ไหน เมืองแต่ละคนไม่เหมือนกัน สุขุมวิท สาทร พระราม 9 ส่วนเมืองในหัวผมคือห้วยขวาง
4.พร้อมจะตัดสินใจเมื่อไหร่
5.ใครเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ (ใช่คนที่เราคุยอยู่ด้วยมั้ย)

6.จากข้อ 1 สมมติซื้อไปสร้างคอนโด
6.1.จะสร้างตึกสูงหรือตึก 8 ชั้น
6.2. product ที่จะขายราคากี่บาท/ตรม
(มันจะสัมพันธ์กับขนาดที่ดินและผังเมือง)
.
7.จากข้อ 1 สมมติซื้อไปสร้างบ้าน
7.1 สมาชิกในบ้านกันกี่คน
7.2 มีจอดรถกี่คัน
7.3 ที่ทำงานหรือจุดที่ไป-กลับบ่อยๆอยู่ที่ไหน
(มันจะสัมพันธ์กับพื้นที่ใช้สอยและฟังค์ชั่นในบ้าน)

8.จากข้อ 1 สมมติกำลังหาเพื่อไปทำออฟฟิสหรือทำธุรกิจ
8.1 ทำธุรกิจอะไร
8.2 พนักงานกี่คน / ลูกค้ากี่คน
8.3 ที่จอดรถกี่คัน
8.4 สิ่งที่ต้องการหลีกเลี่ยงในธุรกิจของคุณ เช่น ไม่ใกล้หอพัก หรือแหล่งชุมชนมากเกินไป ไม่เอาถนนวันเวย์ ไม่เอาใกล้ทางด่วน(กลัวเรื่องเสียง)
(มันจะสัมพันธ์กับข้อกฏหมายอสังหาบางอย่าง)

จริงๆมีคำถามเยอะกว่านี้
พอเห็นไอเดียการตั้งคำถามเน๊อะ

ถ้าลูกค้าตอบได้เกิน 3 ใน 4
จะช่วยหาให้

แต่ถ้าตอบได้ไม่ถึงครึ่ง
หรือขอให้โยนๆมาดูก่อน
จะถือว่าเป็น Shopping Stage
ไปทำการบ้านให้มากกว่านี้ก่อนนะ
แล้วค่อยมาคุย
จะได้เข้าใจตรงกัน

บางคนอาจจะดูว่าเราหยิ่ง เรื่องมาก ถามเยอะ
มีลูกค้ามาทักแล้ว
จะตั้ง criteria อะไรมากมาย
โยนๆไปเดี๋ยวเค้าถูกใจอันไหน
เค้าก็ถามรายละเอียดเพิ่มเองแหละ

คุณชอบหรอ
เวลาส่งงานไป...เค้าอ่าน
แต่ไม่ตอบอะไรกลับมา
.
นั่นเป็นเพราะว่า
เค้าไม่รู้จะไปต่อกับเรายังไง
งานที่เสนอไป
อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ลุกค้า
เอเจ้นท์ไม่เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
หรือลูกค้าอาจจะยังไม่มีอะไรในหัวก็ได้

ลูกค้าไม่ผิด
ที่ยังไม่มีอะไรในหัว
แต่เอเจ้นท์มืออาชีพ
ต้องค่อยๆคุ้ยแคะแกะเอา
หาสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ได้

คุณไม่ชอบหรอ
เสนองานไปแค่2-3แปลง
แต่สามารถจบดิลตอนอยู่หน้างานได้เลย

เราไม่รู้หรอกว่า
ลูกค้ามีข้อมูลมากน้อยแค่ไหน
ได้ยินอะไรมาแบบผิดๆถูกๆ

เราต้องสร้างคำถาม
ตีกรอบให้แคบที่สุด
ไม่ทำงานแบบไร้ทิศทาง
เหมือนกำลังวิ่งอยู่ในเขาวงกต

ทุกคนมีต้นทุน
เวลาทุกคนมีค่า
บริหารมันให้ดี
การเริ่มต้นด้วยคำถามไม่กี่ข้อ
มันคือการนำทางไปสู่คำตอบอะไรหลายๆอย่าง

เสียเวลาช่วงแรก
ดีกว่าลากยาวไปช่วงหลัง
เพียงเพราะคุณเสียดายลูกค้า
แต่ไม่สามารถหาสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ซะที

อย่าเกรงใจที่จะถาม
อย่ากลัวที่จะคุยกับคนรวย
ผมเห็นน้องเอเจ้นท์หลายคน
ไม่กล้าคุยกับคนมีเงิน
ไม่กล้าตั้งคำถามกับคนมียศมีเจ้า

เป้าหมายของเรา
ไม่ใช่การแสดงชนชั้นวรรณะ
หรือฐานะทางสังคม
แต่มันคือการปรับจูน vision
เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน

ลูกค้ากำลังหาอะไรอยู่
เราถืออะไรไว้บ้าง
แล้วดูว่ามันมีสิ่งไหน
ที่พอจะเป็นไปได้มั้ย

ไม่ใช่คนนึงไม่กล้าหาทางออก
ส่วนอีกคนก็ไม่ได้สนใจทางเข้า
แล้วเมื่อไหร่มันจะได้ไปต่อกัน
ดังนั้น...เมื่อเรามาเจอกันแล้ว
เราต้องหาทางออกร่วมกัน

นี่แหละคือเคล็ดลับของการปิดดิล
ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ที่แม้แต่ป้าข้างบ้านก็คาดไม่ถึง

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม