เมื่อเกิดวิกฤต นั่นคือโอกาสดีที่ทำให้เราเดินได้ช้าลง และได้มีโอกาสถามตัวเองว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่?”
ลูกค้ามีแต่มันไปอยู่กับคนอื่นมากจนมาไม่ถึงเอเจนรายเล็กๆอย่างเราแล้วจริงๆหรือ?
บางคนรู้สึก บางคนไม่รู้สึก คนที่ทำนอกทำเลกลางเมืองอาจจะเฉยๆ ยังอยู่ได้ แต่โซนกลางเมืองนี่เจอกันเต็มๆ อย่าว่าแต่ lead ฟรีๆจากเฟสบุ๊คเลย ลงประกาศไปทุกช่องทาง เวปที่เคยจ่ายเงินไว้ เงียบ!สนิท…
มันเกิดอะไรขึ้น?
บางทีเครื่องจักร lead generation ของเจ้าใหญ่อาจดึงลูกค้าไปได้เยอะจริงๆ
บางทีพระเจ้า Algorithm ในเฟสบุค อาจจะจริงจังกับคนค้าขายรายเล็กที่หากินด้วยการโพสมือ เอาlead ฟรี บี้ให้เราไปจ่ายเงินให้เยอะขึ้น เลยปิดแอคเคาน์ที่เคยเป็นช่องทางหากิน และตัดสายเลือดเส้นเล็กๆที่เคยส่งรายได้ให้เราเป็นการกดดันให้จ่ายมากขึ้น
และหรือ บางที ถ้าเราโชคดี ไม่เจอเรื่องพวกนี้เลย แต่อีกไม่นานหุ่นยนต์ หรือ Ai ก็อาจจะทำงานแทนเอเจนได้แล้ว
มันบ้าบอ น่ารำคาญใจ และเราไม่อยากให้เกิดขึ้นจริง
ยี่สิบกว่าปีก่อน ใครจะคิดว่าเราจะซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ที่ไม่ได้ลอง ไม่ได้วัดตัว ไม่รู้จักกัน แถมต้องโอนเงินให้กันก่อนด้วย
ดูวันนี้สิ ชีวิตเราซื้อทุกอย่างได้จากออนไลน์ โดยไม่ได้มีแม่ค้ามานั่งตอบคำถาม โน้มน้าว อธิบายเราตลอดเวลาเหมือนตอนไปซื้อที่ตลาดด้วยซ้ำ
แล้วทำไมวันหนึ่ง ในอนาคต คนจะซื้อขายบ้านผ่านออนไลน์ไม่ได้!?
เราเคยเชื่อว่า อสังหาริมทรัพย์คืออุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนประเทศ เพราะมีการจ้างงานจำนวนมาก เอเจนยังเกาะกระแสหากินกับการซื้อมาขายไป เป็นตัวกลาง เป็นตัวช่วยเจรจาทำการตลาด ช่วยเหลือบริการทำโอนอยู่ได้อย่างไม่รู้จบสิ้น เพราะคนยังต้องซื้อบ้าน!?
ลองไปอ่านข่าวเศรษฐกิจจีนสิ รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายการสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของเขาแล้ว ถึงแม้จะเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ก่อให้เกิดการสร้างงานอย่างมหาศาลก็ตาม และเริ่มให้ความสำคัญกับแนวโน้มอุตสาหกรรมใหม่ๆ ลดการอุ้ม การแบก เพราะปัญหาสร้างจนล้น สร้างแล้วปั่นราคา สร้างแล้วคนไม่ได้ใช้อยู่ได้จริงๆ หน้าตาปัญหา คล้ายๆกับบ้านเรานั่นแหละ สร้างจนล้น
“งั้นก็ไปขาย Luxury สิ Developers ก็หนีเรื่อง reject rate ไปสร้างบ้านหรู คอนโดหรูขายกันทั้งนั้น” Luxury segment เองก็ยังค้างสต๊อกกันบานเบอะ ต้องใช้เวลาระบายอีกอย่างน้อย 3ปี แล้วคุณจะเอาไปขายใคร?
ถ้าจะเล่น segment นี้ เริ่มหาลูกค้าหรือยัง? หาที่ไหน? หาอย่างไร? ฝากความหวังแค่กับลูกค้าจีน ลูกค้าพม่า รัสเซีย ทีมีลอยๆหลุดๆมาถึงมือแค่นานๆครั้ง จะไหวไหมในเมื่อต้องกินต้องใช้ทุกวัน?
การเปลี่ยนแปลงในสเกลที่ใหญ่ระดับโลกมันมาใหญ่ และหลายลูกติดๆกันแบบไม่ค่อยให้เราได้พักเลยด้วยซ้ำ
ไม่ได้แปลว่า อาชีพของเราจะถูกลบหายไปอย่างรวดเร็ว ทันทีทันใด เพราะเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ แต่คนที่ตั้งใจอยู่ และเชื่อมั่นว่ามีคุณค่าจากฝีมือ ความรู้ ที่จะมอบให้ลูกค้าต่อไปได้ในระยะยาว
ก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้ทำงานในระดับที่มีคุณค่าสูงขึ้น ที่ไม่ใช่แค่ขายสินค้ามูลค่าสูงขึ้น แต่ต้องคิดแบบนอกกรอบ คิดให้ตัวเองโต เพราะ Self employ ที่ทำทีก็ได้เงินเยอะๆที และหยุดทำก็ไม่มีเงินนั้น อาจจะไม่แข็งแรงพออีกต่อไป
ส่วนคนใหม่ เพิ่งเข้ามา เพิ่งทำ ยังฝันหวานว่าเป็นเอเจนหาเงินง่าย และคุณเพิ่งหนีตายมาจากการถูกให้ออกจากงาน เพิ่งเปลี่ยนอาชีพมา ยังตื่นเต้นกับการได้จับเงินหมื่น เงินแสนที่สร้างได้ด้วยตนเองเป็นครั้งแรกๆ
ก็อย่ามัวตื่นเต้นนาน เพราะคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้หยุดแค่ออฟฟิศเก่าของคุณหรอกนะ มันไปทุกอุตสาหกรรมนั่นแหละ
คิดและวางแผนให้ไกล และขอให้มีความสุขทุกคนค่ะ