ความรู้

ความรู้

รู้จักประเภทห้องพักอาศัยในคอนโด เลือกที่ใช่ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากที่สุด

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 13 กันยายน 2567 18:29
เมื่อจะซื้อคอนโดแค่ดูราคา ทำเล กับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและนอกโครงการคงยังไม่พอ ประเภทห้องพักอาศัยก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
ซึ่งคอนโดแต่ละโครงการก็จะมีห้องหลายประเภทตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และจำนวนของผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะพาไปดูว่า ประเภทห้องพักอาศัยในคอนโดมีอะไรบ้าง เพื่อหาคำตอบว่าแบบไหนที่ใช้สำหรับเรามากที่สุด
Studio
ห้องคอนโดแบบ Studio เป็นประเภทที่มีขนาดเล็กที่สุด โดยพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 20 ตารางเมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร ภายในห้องได้รวมฟังก์ชันต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ แต่ก็มีบางโครงการที่เพิ่มกระจกบานเลื่อนเพื่อกั้นห้องเป็นสัดส่วน
สำหรับใครที่พักอาศัยคนเดียว อยู่กับแฟนหรือเพื่อนไม่เกิน 2 คน และอยากประหยัดงบ ก็อาจจะเลือกห้อง Studio ก็ได้ เพราะขนาดห้องกำลังพอดี ส่วนราคาก็ถือว่าถูกกว่าห้องประเภทอื่นที่มีพื้นที่มากกว่า
แต่ถ้าใครชอบทำอาหารเป็นประจำ โดยเฉพาะเมนูที่มีกลิ่นค่อนข้างแรง อาจจะไม่เหมาะกับห้องไทป์นี้ เพราะไม่มีการแบ่งสัดส่วนห้องครัวแยกออกไปต่างหาก จึงมีโอกาสที่กลิ่นควันจากการทำอาหารไปรบกวนเพื่อนบ้านได้
1 Bedroom
ขยับขึ้นมาอีก Step กับห้องแบบ 1 Bedroom ซึ่งมีขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร ไปจนถึง 50 ตารางเมตร เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวและต้องการห้องที่กว้างขึ้น หรืออยู่ 2 คน โดยห้องไทป์นี้จะมีการแบ่งสัดส่วนฟังก์ชันต่าง ๆ ชัดเจนด้วยการกั้นกระจกบานเลื่อน
ซึ่งใครมีไลฟ์สไตล์ชอบทำอาหารกินเองเป็นประจำ ห้องแบบ 1 Bedroom ค่อนข้างตอบโจทย์ทีเดียว แต่อาจจะต้องไปดูรายละเอียดแปลนห้องอีกทีว่าครัวอยู่ในตำแหน่งใด หากเป็นครัวปิดอยู่ตรงระเบียง ก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นควันจากการทำอาหารได้ แต่ถ้าเป็นครัวเปิด หรือ Pantry อยู่ในบริเวณประตูทางเข้า จะเหมาะกับการทำอาหารที่ใช้เครื่องอบ หรือเป็นการอุ่นร้อนมากกว่า
สำหรับใครที่ต้องการซื้อคอนโดปล่อยเช่า ห้องแบบ 1 Bedroom นับว่าตอบโจทย์นักลงทุนอย่างมาก เพราะมีขนาดกำลังดี ฟังก์ชันก็ถือว่าครบครัน สะท้อนผ่านการครองอันดับ 1 แบบห้องที่ถูกค้นหามากที่สุดทั้งในหมวดหมู่การซื้อและเช่าคอนโด จากแพลตฟอร์ม LivingInsider
1 Bedroom Plus
ขั้นกว่าของ 1 Bedroom คือ 1 Bedroom Plus ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองประเภทคือ แบบ Plus จะมีห้องนอนเพิ่มอีกหนึ่งห้อง โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 50 ตารางเมตร เหมาะกับคนที่อยู่กับเพื่อน 2 คน หรืออยู่กับครอบครัวแล้วมีลูก 1 คน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ห้องที่เพิ่มขึ้นมาไม่จำเป็นต้องทำเป็นห้องนอนเสมอไป เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เลย อย่างใครที่ WFH หรือเป็นฟรีแลนซ์ ก็อาจจะออกแบบให้เป็นห้องทำงานก็ได้ หรือใครมีอาชีพขายสินค้าออนไลน์ หรือสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ก็สามารถตกแต่งเป็นห้องไลฟ์สดได้เช่นกัน
2 Bedroom
ห้องคอนโดแบบ 2 Bedroom มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 50 ตารางเมตร ไปจนถึง 100 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็น Master Bedroom ที่สามารถวางเตียงไซซ์ 5-6 ฟุตได้ ส่วนอีกห้องพื้นที่จะเล็กลงมา สำหรับวางเตียงขนาด 3 ฟุตขึ้นไป ซึ่งบางโครงการมีห้องน้ำให้ 2 ห้อง
สำหรับใครที่อยู่กับครอบครัว จำนวน 2-3 คน แล้วทำงานในเมือง ไม่อยากซื้อบ้านหรือทาวน์โฮมที่ต้องขยับออกไปอยู่โซนชานเมือง การซื้อคอนโดประเภท 2 Bedroom ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีทีเดียว
อีกทั้งห้องไทป์นี้ยังรั้งอันดับ 2 รูปแบบห้องคอนโดที่ถูกค้นหามากที่สุดทั้งในหมวดหมู่การซื้อและเช่า จากแพลตฟอร์ม LivingInsider สะท้อนให้เห็นถึงการตอบโจทย์ทั้งสำหรับอยู่อาศัยเองและซื้อลงทุน
Loft
ห้องคอนโดประเภท Loft จะเป็นคนละความหมายกับการตกแต่งในสไตล์ Loft โดยเป็นรูปแบบที่มีชั้นลอย ซึ่งมีพื้นที่ไม่เต็มชั้น ทำให้พื้นที่บางส่วนของชั้นล่าง ที่ส่วนใหญ่เป็นห้องนั่งเล่นมีลักษณะเป็น Double Volume ด้วยความสูงจาก Floor to Ceiling ไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง สบายตา
อีกทั้งโครงการมักติดตั้งหน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้สามารถชมวิวโดยรอบได้อย่างเต็มอิ่ม ซึ่งห้องแบบ Loft เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว หรือ 2 คน และต้องการอยู่คอนโดแต่ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน นอกจากนี้ ในทางกฎหมายจะคิดพื้นที่ตามโฉนดแค่ชั้นล่าง ไม่นับรวมชั้นลอย ดังนั้นค่าส่วนกลางก็จะคิดแค่พื้นที่ชั้นล่างนั่นเอง
Duplex
ห้องแบบ Duplex จะเป็นการรวมห้อง 2 ยูนิต ชั้นบนและล่างไว้ด้วยกัน โดยชั้นบนจะมีทั้งแบบมีช่องเปิงโล่งและแบบปิดทึบ ซึ่งแบบเปิดโล่งลักษณะจะใกล้เคียงกับแบบ Loft และให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย เหมือนอยู่บ้าน เนื่องจากความสูงของห้องแบบ Duplex จะต้องไม่ต่ำกว่า 5 เมตร โดยจากพื้นถึงพื้นมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.6 เมตร ส่วนชั้น 2 ความสูงจากพื้นถึงเพดานต้องไม่น้อยกว่า 2.4 เมตร
สำหรับการออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในห้อง ปกติแล้วห้องนอนจะอยู่ที่ชั้น 2 ส่วนชั้นล่างจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และห้องครัว ที่สำคัญห้อง Duplex มีการคิดพื้นที่ชั้น 2 รวมเข้าไปในโฉนดด้วย นั่นแปลว่าเวลาจ่ายค่าส่วนกลาง จะต้องนำพื้นที่ทั้งชั้นบนและชั้นล่างมาคำนวณ
โดยห้อง Duplex เหมาะกับทั้งคนที่อยู่คนเดียว หรืออยู่กับครอบครัว และต้องการอยู่คอนโดที่ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เพราะได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ มีบันได
Penthouse
ขั้นสุดของการอยู่อาศัยในคอนโดกับ Penthouse ที่แค่ได้ยินก็รับรู้ได้ถึงความลักชูรีทันที โดยห้องไทป์นี้มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งบางโครงการกินพื้นที่ของทั้งชั้น หรืออาจทำเป็นแบบ Duplex และส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นบนสุด หรือเกือบบนสุดของโครงการ
ภายในห้องถูกรังสรรค์ทุกตารางเมตรอย่างหรูหรา ด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งระดับไฮเอนด์ รวมถึงแบรนด์ดังระดับโลก พร้อมจัดสรรฟังก์ชันใช้สอยอย่างครบครัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยกระดับการอยู่อาศัยสุดพรีเมียม
นอกจากนี้ ยังมอบความเอกซ์คลูซิฟด้วยลิฟต์ส่วนตัวแบบที่ไม่ต้องใช้ร่วมกับใคร ซึ่งในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยไปอีกขั้น โดยห้องแบบ Penthouse เหมาะสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนัก และสามารถอยู่ได้ทั้งครอบครัว
การเลือกประเภทห้องพักในคอนโดให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด ไม่เพียงเป็นผลดีต่อการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่หากในอนาคตมีแพลนขยับขยายไปอยู่บ้านหรือทาวน์โฮม แล้วต้องการขายหรือปล่อยเช่าคอนโด ประเภทห้องก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจเช่าหรือซื้อของลูกค้าเช่นกัน

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม