ความรู้

ความรู้

จับแล้ว สาวแสบ หลอกเหยื่อให้เช่าคอนโด โกงไม่หยุด อย่าไปยอม วันนี้คดีแบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงและยอมความกันไม่ได้แล้ว อ่านเพิ่มเติมในข่าวด้านล่าง

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 10 เมษายน 2565 12:47
ผู้เสียหายสร้างกลุ่มเฟซบุ๊กกว่า 100 ราย เคยโดนจับได้แล้วยังไม่เข็ด ก่อเหตุซ้ำอีก

วันที่ 10 เม.ย.65 พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท.สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.บก.ทท1.,พ.ต.ท.จิรัฏฐวัฒน์ กาญจนวรางกูร รอง ผกก.1 บก.ทท.1 พ.ต.ต.วรกิจ วรรณสอน สว.กก.1 บก.ทท.1

พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท1. ร่วมกันจับกุม น.ส.ปภาวรินทร์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 28 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.53/2565 ลงวันที่ 17 ก.พ. 2565 กระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ”โดยจับกุมได้ที่ ภายในซอยหทัยราษฎร์ 37 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลอกให้เช่าคอนโดให้กับผู้เสียหายกว่า 100 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
พ.ต.อ.ปิยรัช กล่าวว่า หลังมีประชาชนร้องเรียนว่าถูกหลอกให้โอนเงินค่าเช่าคอนโด โดยผู้ต้องหามีการสร้างโปรไฟล์เฟซบุ๊คปลอมชื่อ (MEAW WA NAT) แฝงตัวอยู่ 4 ในเพจ เฟซบุ๊กสาธารณะที่มี ประชาชนทั่วไปต้องการเช่าคอนโดมิเนียม

เมื่อมีผู้เสียหายประกาศหาเช่าคอนโดมิเนียม คนร้ายจะเข้ามาติดต่อสนทนา แอบอ้างตนเป็นเจ้าของห้องและเสนอห้องพักให้เช้า เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้คนร้าย

จนกระทั่งผู้เสียหายเดินทางเข้าไปดูห้องพักกับทางนิติบุคคลที่คนร้ายแจ้งไว้ ต่อมาเจ้าของห้องตัวจริงได้เข้ามาแสดงตัวตนกับผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกคนร้ายหลอกลวงได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความต่อสน.ทองหล่อ และออกหมายจับ น.ส.ปภาวรินทร์
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเคยทำงานเป็นนิติบุคคลและเอเจนซี่ให้กับคอนโดมิเนียมหลายแห่ง จึงเข้าใจและ ชำนาญวิธีการติดต่อเช่าห้องพักเป็นอย่างดี ภายหลังไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ยังคงแอบอ้างเป็นตัวแทนให้จัดหาผู้เช่าห้องอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 เจ้หน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 สามารถติดตามจับกุม น.ส.ปภาวรินทร์ ไว้ได้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุมาแล้วตั้งแต่ปี 2562 ตอนนั้นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 500,000 บาทและเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 จับกุมมาแล้วครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564

ตามหมายจับ ศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.238/2564 ลงวันที่ 19 เมษายน 2564 ความผิดฐาน”ฉ้อโกง,โดยทุจริตหรือโดยหลอกล4วง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดงและอยู่ในขั้นตอนระหว่างการดำเนินคดี
หลังจากนั้นได้ก่อเหตุในลักษณะเดิมก่อนมาถูกจับกุม นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายรายอื่นๆที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวง ได้รวมตัวกัน ทาง “FACEBOOK” ชื่อกลุ่ม ผู้เสียหายจาก น.ส.ปภาวรินทร์ทมากกว่า 100 ราย และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มดังกล่าง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,000,000 บาท

จากสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าได้นำเงินที่หลอกลวงผู้เสียหายมาใช้จ่ายเพื่อเป็นการส่วนตัว ยอมรับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งที่โดนจับก็จะขอคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายในรายนั้นๆเพราะตนทราบว่คดีฉ้อโกงสามารถยอมความได้จึงก่อเหตุในลักษณะเดิมซ้ำๆ ทั้งยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ดำเนินคดีแจ้งความร้องทุกข์แล้วแต่ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขอออกหมายจับ

ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้มีการขอออกหมายจับ มาจากการที่ น.ส.ปภาวรินทร์ ใช้วิธีการติดต่อกับร้อยเวรของ ผู้เสียหายแต่ละรายอ้างว่าตนจะคืนเงินให้กับผู้เสียหายแต่ก็ไม่ได้มีการติดต่อคืนเงินแต่อย่างใด เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มาจากข่าวสด https://www.khaosod.co.th/crime/news_6991412
*** ใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้อ่านตรงนี้ครับ สำคัญมากๆ***

มีคนโกงแบบนี้เยอะมาก เพราะเข้าใจว่าไม่ผิดกฏหมายและยอมความได้ โดยเมื่อเจอแจ้งความ ผู้ต้องหาใช้วิธีการไก่เกลี่ยเนื่องจากเป็นคดีที่ยอมความกันได้

เพราะคดีฉ้อโกงที่มีโทษหนักและยอมความไม่ได้ ต้องมีผู้เสียหายรวมกัน 10 คนขึ้นไป

แต่ปัจจุบันศาลได้มีการตัดสินออกมาแล้วว่า หากเป็นการลงประกาศในระบบออนไลน์ แม้มีผู้เสียหายรายเดียวก็เข้าข่ายคดีฉ้อโกงทันที ยอมความกันไม่ได้

ในคลิปนี้ข่าวของคุณ สรยุทธ ก็ได้พูดความผิดประเด็นนี้ที่ศาลเคยตัดสินไว้แล้ว กดดูคลิปข่าวที่ลิ้งค์นี้ https://youtu.be/Upgb0Gh6YLo?t=1489

ดังนั้นวันนี้คดีแบบนี้มีโทษหนักแจ้งความกันได้เลย อย่าให้คนชั่วลอยนวล

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง