ทำ Exclusive listing มันยากนะ ต้องใช้ฝีมือและความพยายามในระดับเหมือนขายบ้านตัวเอง เอ๊ะ...แล้วถ้าลูกค้าต่อ low ball มากๆ ทำไมยังรับล่ะคะ? ทำไมไม่ปฏิเสธให้ผู้ขายเลย?
" ค่ะ ใช่เลยค่ะ คงต้องใช้งบประมาณพอสมควรเพื่อปรับปรุงให้น่าอยู่ เหมาะกับสไตล์เจ้าของบ้านใหม่ ไม่ทราบจะเสนอราคาที่เท่าไหร่ดีคะ?"
ผู้ซื้อก็จะถามล่ะค่ะ ว่า" ราคาดีที่สุดเท่าไหร่?" เพราะแน่นอนเขามาดูทรัพย์ เขามีราคาในใจอยู่แล้วล่ะค่ะว่าถ้าถูกใจ จ่ายได้เท่าไหร่ แต่เอเจนยืนฝั่งเจ้าของ เราก็ต้องบอกว่า
" เสนอราคาเท่าไหร่ก็ไม่ต้องกังวลว่าเราจะปฏิเสธนะคะ เราเป็นตัวแทนขายเพียงผู้เดียว เจ้าของก็อยากขาย หากเขารับได้ ดีลก็จบค่ะ เพียงแต่เขียนหนังสือเสนอซื้อ และเงินสดประกอบการเสนอซื้อสักหน่อย ถ้าเจ้าของรับ นี่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมัดจำ แต่ถ้าเจ้าของปฏิเสธ ทางเราจะนำคืนผู้ซื้อค่ะ"
ไม่มีอะไรต้อง take it personally ถ้าผู้ซื้ออยากได้ ก็ต้องวางเงินและเขียนเสนอซื้อ เพื่อให้ชัดเจนว่าต้องการจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ถ้ายังอยู่ในระหว่างช้อปปิ้ง เขาจะยังไม่ทำ และก็เรียบง่ายแบบนั้น ในการคัดกรองว่า ใครคือผู้ซื้อที่มีความตั้งใจและพร้อมเข้าทำสัญญาจริงๆ
ต่อลม ได้ลม ไม่ได้ค่าขนมให้เอเจน 😁 ทำงานฟรี พี่ไม่ทำอ่ะค่ะ
ทำ Exclusive listing มันยากนะ ต้องใช้ฝีมือและความพยายามในระดับเหมือนขายบ้านตัวเอง
เอ๊ะ...แล้วถ้าลูกค้าต่อ low ball มากๆ ทำไมยังรับล่ะคะ? ทำไมไม่ปฏิเสธให้ผู้ขายเลย?
ตอนเซ็นสัญญา จะถามเจ้าของก่อนเสมอว่า " มีราคาไหน หรือตัวเลขใดที่ไม่รับพิจารณาเลยไหมคะ จะได้ปฏิเสธให้เลย?" ถ้าเจ้าของที่ตั้งใจขายจริงๆ เขาจะไม่ปิดโอกาสตัวเองค่ะ เราก็ต้องเสนอให้ทราบทุกตัวเลข หรือบางรายบอกเลยว่าต่ำกว่านี้ " ไม่ขาย" แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาอาจมีความจำเป็นต้องใช้เงิน
หรือสถานการณ์เปลี่ยน ตัวเลขใดๆ ก็เกิดขึ้นได้ และไม่ใช่หน้าที่เราต้องตัดสินค่ะ
เอาให้เคลียร์นะคะ อยู่ในบทบาทไหน ก็สวมบทบาทนั้นให้ชัด ทำให้เต็มที่ มีจุดยืนให้มั่นๆ
ถ้าตอนสวมบทบาทตัวแทนผู้ซื้อที commit จ่ายค่าตอบแทนให้โดยไม่ต้องขอผู้ขาย โอ๋ก็ต่อแหลก เพื่อผลประโยชน์ของผู้ซื้อค่ะ ❤️
พบกันใหม่โพสต์หน้า บรั่ย! 😎