อยากรีโนเวทบ้าน หมดห่วงเรื่องงบ ด้วยตัวช่วยใหม่ล่าสุด ‘บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน’

ช่วงนี้เรามักจะเริ่มเห็นหลายๆ คน หันมารีโนเวทบ้านกันมากขึ้น จะเป็นบ้านเดิมของครอบครัวมารีโนเวทใหม่ให้โมเดิร์นขึ้น หรือซื้อบ้านเก่าของคนอื่น แล้วมารีโนเวทเป็นสไตล์ของตัวเอง เพราะรู้สึกว่าประหยัดและคุ้มค่ามากกว่า เมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง และราคาบ้านใหม่ในปัจจุบันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

แต่ปัญหาที่ทำให้ต้องคิดเยอะและไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ว่าแล้วจะต้องรีโนเวทบ้านของเราแบบไหน ถึงจะให้ความรู้สึกคุ้มค่าทั้งในแง่ความสวยงามที่ดีต่อใจ รวมถึงเวลาและค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป วันนี้เราเลยจะมาชี้ช่องทางให้เห็นว่า การรีโนเวทหรือตกแต่งบ้านนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด

อันดับแรกสำรวจตัวเองก่อนเลยว่าจะลงมือทำอะไรกับที่อยู่อาศัยของเราบ้าง จะทุบผนังตรงนี้ สร้างขยายเพิ่มห้องตรงนั้น หรือต่อเติมต่างๆ แม้แต่ตกแต่งสไตล์บ้านใหม่ก็ย่อมต้องมีการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ด้วยเช่นเดียวกัน แนะนำว่าควรลิสต์รายการให้ครบถ้วน

พร้อมกับ กำหนดงบประมาณคร่าวๆ ที่จะใช้ โดยคำนวณจากค่าจ้างช่าง ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าเฟอร์นิเจอร์ และที่สำคัญต้องไม่ลืมมองถึงค่าใช้จ่ายที่แฝงอยู่ ยกตัวอย่างใครที่อยู่คอนโดหรือบ้านจัดสรร จะมีในส่วนของค่ามัดจำที่ต้องให้นิติบุคคลก่อนทำการต่อเติม หรือบางคนต้องแบ่งเงินบางส่วนไปเช่าที่อยู่อาศัยสำรองระหว่างทำการรีโนเวท

ยัง!! ยังไม่หมดนะ ซึ่งตรงนี้อยากให้ไฮไลต์และเตรียมใจไว้เลยว่า… งบประมาณที่ตั้งไว้อาจจะไม่เพียงพอ เพราะความเป็นจริงแล้วค่าใช้จ่ายมักจะบานปลายกว่าที่กำหนดไว้ จึงอยากให้สำรองเงินบางส่วนเอาไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไว้อย่างน้องประมาณ 10% เทียบจากค่าใช้จ่ายทั้งหมด

สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนคือ ค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมดล้วนเป็นเงินก้อนแทบทั้งนั้น อย่างค่าวัสดุอุปกรณ์ทั้งหลาย หรือต่อให้แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ให้กับช่างหรือสถาปนิก แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในหลักหมื่นจนถึงหลักแสนขึ้นไป รวมถึงค่าเช่าที่พักสำรองในแต่ละเดือน และเฟอร์นิเจอร์ที่จะซื้อเข้าบ้านอีก รวมๆ แล้วมีแตะหลักแสนหลักล้านกันบ้างล่ะ

ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาเงินก้อน ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจะใช้รีโนเวทบ้าน วันนี้...เราจึงมีแหล่งเงินทุนใกล้ตัว ที่อยากจะแนะนำ คือ การเปลี่ยนบ้านเป็นเงิน ด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี เพราะ ให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่ออื่นๆ ผ่อนต่อเดือนสบาย ไม่ต้องมีคนค้ำ บ้านก็ไม่ต้องขาย เรียกว่า รับเงินสดแล้วบ้านยังอยู่ได้เหมือนเดิม เหมาะสำหรับคนที่มีบ้านหรือคอนโดที่ปลอดภาระแล้ว หรือตอนนี้อาจจะยังติดผ่อนอยู่กับธนาคาร ก็สามารถเลือกรีไฟแนนซ์มาที่ทีทีบี และขอวงเงินกู้เพิ่มเป็นสินเชื่อบ้านแลกเงินได้เช่นกัน

และตอนนี้..."ทีเอ็มบีธนชาต" หรือ ทีทีบี ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน” ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการสินเชื่อบ้าน ที่เสนอให้วงเงินสำรองพร้อมใช้ในบัตรกดเงินสด เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้เงินแบบคูณสอง เมื่อสมัครพร้อมกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี ตัวปกติ ถือเป็นการสมัครครั้งเดียว ได้รับทั้งเงินก้อนโอนเข้าบัญชี และวงเงินสำรองพร้อมใช้ในบัตรกดเงินสด

ทางเลือกใหม่ ให้การใช้เงินคล่องตัวแบบคูณสอง

สำหรับ “บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน” ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้ เป็นธนาคารแรกที่ออกบัตรกดเงินสดในกลุ่มของสินเชื่อบ้าน ที่มีหลักประกัน เพราะปกติเราจะเห็นบัตรกดเงินสดในกลุ่มของสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ดังนั้นสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจที่ผู้ถือบัตรนี้จะได้รับ คือ

- ดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรกดเงินสดทั่วไป เพียง 0.58% ต่อเดือน หรือต่อวันเพียงแสนละ 19 บาทกว่าเท่านั้น

- ผ่อนคืนขั้นต่ำเพียง 1% หรืออยากโปะก็ทำได้ วงเงินกลับเข้าบัตรทันที

- ผ่อนสินค้าและบริการ (ttb pay plan) ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 60 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ

- ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี หมดกังวลการจ่ายเงินที่ซ้ำซ้อน ใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ

- สามารถกดเงินสดจากผ่าน ATM ได้ทุกตู้ ทุกธนาคาร ไม่มีค่าธรรมเนียม

- โอนเงินจากบัตรเข้าบัญชีได้ทันที สะดวก และง่ายผ่าน ttb touch

ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ เหมาะมากๆ กับคนที่กำลังคิดจะรีโนเวทบ้านด้วย เพราะเมื่อกู้แล้ว สามารถแยกวงเงินกู้ออกเป็น 2 ส่วนได้ ดังนี้

ส่วนที่ 1 : สำหรับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่เกิดขึ้นแน่นอน เราวางแผนไว้แล้ว เช่น ค่าช่างที่เราต้องมีการจ่ายเป็นงวดๆ ค่าอุปกรณ์ก่อนสร้างในการรีโนเวท ค่าเช่า ค่ามัดจำต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ส่วนนี้แนะนำให้กู้เป็นสินเชื่อบ้านแลกเงินปกติ เพราะธนาคารจะให้เป็นเงินก้อนโอนผ่านบัญชีของคุณ ดอกเบี้ยก็จะเริ่มคิดตั้งแต่วันที่ได้รับเงิน แต่เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำแบบลดต้นลดดอก ผ่อนเป็นรายงวด งวดละเท่าๆ กัน ดังนั้น จึงจะช่วยให้คุณบริหารจัดการเงินได้ดีพร้อมกับจ่ายคืนแบบแน่นอนในแต่ละเดือน

ส่วนที่ 2 : เป็นลักษณะวงเงินสำรองในบัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน เงินส่วนนี้เมื่อโอนเข้าบัตรไปเรียบร้อยแล้ว จะยังไม่คิดดอกเบี้ย ธนาคารจะคิดก็ต่อเมื่อมีการเบิกใช้เท่านั้น ดังนั้น จึงเหมาะกับค่าใช้จ่ายที่เราไม่คาดคิด หรือค่าใช้จ่ายจุกจิกที่อาจจะงอกบานปลายระหว่างที่เรารีโนเวทบ้าน หรือหากใครวางแผนไว้ดีมากๆ เงินก้อนที่มีเพียงพอ ก็อาจจะเลือกหยิบบัตรนี้ ใช้ผ่อนของเหมือนกับบัตรเครดิต

โดยสามารถผ่อนสินค้าและบริการ (ttb pay plan) ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 60 เดือน เช่น ซื้อเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ Index living mall, SB Design Square, HomePro, บุญถาวร, Power Buy รวมถึงมือถือ อุปกรณ์ไอที จากร้านค้าชั้นนำมากมาย สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/cyh-cashcard-payplan

หลังจากตัดสินใจเลือกขอสินเชื่อได้เรียบร้อยแล้ว ก็มาสู่ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร เพื่อยื่นกับทางธนาคาร หลักๆ ก็พวกสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือนสำหรับพนักงาน และบัญชีรายรับ-รายจ่าย สำหรับประกอบธุรกิจส่วนตัว รวมถึง Statement ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมเอกสารหลักประกันอย่างสำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สนใจสมัคร หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.ttbbank.com/cyh-cashcard-livinginsider

มั่นใจได้ว่าการทำ “สินเชื่อบ้านแลกเงิน และบัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน” เป็นเรื่องที่ทำง่ายไม่วุ่นวาย ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ขอแค่เอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ก็รู้ผลรวดเร็วทันใจ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ที่ตอบโจทย์และเหมาะอย่างมากแก่คนที่คิดอยากรีโนเวทบ้านได้อย่างลงตัว

ทิ้งท้ายไว้ซะนิดว่านอกจากเลือกธนาคาร และสินเชื่อที่น่าเชื่อถืออย่าง “สินเชื่อบ้านแลกเงิน และบัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน” เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมเลือกมืออาชีพทั้งด้านสถาปนิกและผู้รับเหมาให้ดีด้วยนะ เพื่อให้บ้านใหม่ของเราออกมาสวยงามถูกตาต้องใจ และให้ความรู้สึกว่าอยู่แล้วจะต้องมีความสุขในทุกมิติ