ความรู้

ความรู้

ดูทำเลให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ถ้าไม่อยากผิดหวัง

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 4 กรกฎาคม 2567 18:01
เวลาจะซื้อบ้านสักหลัง แค่ไปเยี่ยมชมโครงการอาจยังไม่พอ เราจำเป็นจะต้องสละเวลาสัก 1-2 วัน ลงไปสำรวจทำเลที่ตั้งโครงการที่เราจะซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าหากตัดสินใจลงหลักปักฐานที่นี่แล้วจะไม่ผิดหวัง ซึ่งวันนี้ Living Insider จะพาทุกคนไปดูว่าต้องเลือกทำเลแบบไหน ให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของเราอย่างแท้จริง
น้ำท่วมขัง อุปสรรคช่วงหน้าฝน
ถ้าช่วงเวลาที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านตรงกับหน้าฝน ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้รู้ว่าพื้นที่โครงการที่เราจะซื้อ รวมถึงในทำเลนั้นตอนฝนตกเป็นยังไง น้ำท่วมขังหรือไม่ และสามารถระบายน้ำได้ดีหรือเปล่า เพราะถ้าเข้าไปอยู่แล้วดันเจอปัญหาน้ำท่วมตอนหลัง ครั้นจะย้ายออกก็คงไม่ทัน
และผลกระทบที่ตามมาก็คือ ความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมบ้านหากฝนตกหนักมาก ๆ ซึ่งก็จะทำให้ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านได้รับความเสียหายไม่มากก็น้อย ทั้งยังต้องทำความสะอาดหลังน้ำลด รวมถึงต้องคอยระวังสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ
เดินทางสะดวก ขนส่งสาธารณะเพียบ
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีรถส่วนตัว แต่ถึงมีก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่พึ่งพาขนส่งสาธารณะเลย เพราะถ้ามีเหตุจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถใช้รถได้ เช่น รถเสีย หรือมีคนยืมรถไปใช้ชั่วคราว เราก็อาจจะต้องเดินทางโดยรถสาธารณะ
ดังนั้นควรเลือกซื้อบ้าน-คอนโดในบนทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า หรือมีรถโดยสารวิ่งผ่าน เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แม้ไม่มีรถส่วนตัว
สภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน
ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ลองขับรถจากโครงการที่กำลังจะซื้อไปที่ทำงานในตอนเช้า และขับกลับมาตอนเลิกงานอีกครั้ง เพื่อดูว่าการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนบนทำเลที่ตั้งโครงการเป็นยังไง รถติดมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเราต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับที่ทำงานนานเกินไป ก็จะเพิ่มความเหนื่อยล้าในแต่ละวันมากขึ้นไปอีก
สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยคือต้องรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ให้ได้ช้อปปิ้ง ดูหนัง กินข้าว และซื้อของใช้ต่าง ๆ เข้าบ้านได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องไปไหนไกล
รวมถึงถ้าอยู่ใกล้โรงพยาบาล หรือคลินิกรักษาโรคด้วยก็จะดีไปอีก เพราะเมื่อเจ็บป่วย จะได้เดินทางไปง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะหากป่วยกะทันหัน หรือตอนกลางดึก การที่มีโรงพยาบาลใกล้บ้านก็ช่วยให้อุ่นใจได้มากทีเดียว
นอกจากนี้ หากมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ ๆ ก็จะยิ่งทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น เพราะแม้ว่ายุคนี้จะมีบริการดิลิเวอรี แต่บางทีถ้าเราต้องการซื้อของแค่อย่างเดียว แล้วราคายังไม่ถึงคำสั่งซื้อขั้นต่ำที่แต่ละแอปกำหนด เราก็ต้องซื้ออย่างอื่นเพิ่ม แต่ถ้ามีร้านค้าใกล้บ้าน เราก็สามารถออกไปซื้อของที่เราต้องการเพียงชิ้นนั้นชิ้นเดียวได้เลย
ทางไม่เปลี่ยว เดินคนเดียวไม่ต้องกังวล
ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ควรดูให้ดีว่าบริเวณโดยรอบโครงการอยู่ใกล้แหล่งชุมชน มีคนพลุกพล่าน หรือมีพื้นที่รกร้างหรือไม่ เพราะสำหรับใครที่ไม่มีรถส่วนตัวแล้วต้องเดินในที่เปลี่ยวตอนกลางคืน ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอันตรายได้ แต่ถ้าบริเวณโดยรอบโครงการมีคนพลุกพล่าน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็ยังสามารถร้องให้คนช่วยได้
เสียงดังจากสถานบันเทิงใกล้เคียง
จะซื้อบ้านทั้งที อย่าลืมดูให้ดีว่าทำเลที่ตั้งโครงการมีสถานบันเทิงหรือไม่ เพราะถ้ามีผับบาร์อยู่ใกล้ ๆ ในตอนกลางคืนอาจมีเสียงดังรบกวนได้ และแน่นอนว่าเราจะต้องเจอมลพิษทางเสียงแบบนี้ทุก ๆ คืน ซึ่งจะทำให้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ จนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด
ลำโพงขยายเสียงจากวัด-โรงเรียนอาจดังรบกวน
ใครที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นน้อง ๆ วัยเรียน ก็คงอยากซื้อบ้านในทำเลที่มีโรงเรียนอยู่ใกล้ ๆ ใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าใกล้มากไปก็ใช่จะดี เพราะแปลว่าเราจะต้องได้ยินเสียงทำกิจกรรมหน้าเสาธงทุกเช้า ยิ่งวันไหนจัดงานกีฬาสียิ่งมีเสียงดังตลอดทั้งวัน ซึ่งก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ work from home
หรือหากโครงการอยู่ใกล้วัดมาก ๆ เมื่อมีงานประจำปี ก็ให้ทำใจไว้เลยว่าจะต้องได้ยินเสียงเชิญชวรร่วมทำบุญ รวมถึงคอนเสิร์ตของศิลปินที่มาร่วมงานดังรบกวนตั้งแต่งานเริ่มจนงานเลิก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านั่นคือประเพณีที่จัดขึ้นทุกปี ไม่สามารถห้ามได้ ดังนั้นทางที่ดีควรซื้อบ้านที่อยู่ใกล้วัดและโรงเรียนในระยะห่างที่พอดี
การจะซื้อบ้าน ไม่ใช่แค่เลือกตัวบ้านและโครงการที่ถูกใจ แต่ต้องเลือกทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราในทุกด้านจริง ๆ เพื่อให้การตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ไม่ผิดพลาด ได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุข และเพอร์เฟคที่สุดสำหรับตัวเราเอง

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม