feature
icon   146

ติดตาม

icon   0

กำลังติดตาม

icon   181

โพสที่สร้าง

ความรู้

มีเรื่องน่ารัก น่าประทับใจมาเล่าค่ะ เพื่อเป็นการปกป้องข้อมูลของคุณลูกค้า ขอเล่าเรื่องนี้ให้เป็นนิทาน หรือนิยายนายหน้าละกันนะคะ

เมื่อเร็วๆนี้ ได้ดูแลลูกค้าต่างชาติท่านหนึ่ง เป็นลูกค้าเดิมเคยซื้อคอนโดกันเมื่อหลายปีก่อน โควิดแยกเราจากกันนานเกินไป คุณลูกค้าก็ได้แต่คิดถึงเมืองไทย และตามดูเอเจนในโซเชี่ยลมีเดียแก้เหงามาโดยตลอด

กลับมาเมืองไทยรอบนี้ ก็เตรียมสตางค์มาช้อบปิ้งอสังหาฯ ในช่วงเวลาที่เงินบาทอ่อนค่านั้นเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเลือกซื้อ เขามีลิสยาวเหยียดสำหรับตึกที่อยากไปดู และอยากปรึกษาเรื่องโอกาสที่เงินจะงอกเงย ตึกไหนโควต้าต่างชาติเต็ม ก็ซื้อเข้าบริษัทไทยได้ ให้ดำเนินการเป็น Buyers agent ของเขาเต็มตัว

คุณลูกค้าไปถึงสำนักงานขาย ก็ดูทรัพย์โดยละเอียดยิบ ทุกจุด ในแบบที่เอเจนเองบางทีก็นึกไม่ถึง ดูไป พูดไป เล่าไอเดียตัวเองไป จนเซลโครงการเริ่มมองหน้าแบบขอความคิดเห็น

“ ดูละเอียดยิบ พูดอย่างเยอะ จะซื้อจริงไหมเนี่ยพี่?” เซลโครงการคิดดังจนได้ยินมาทางสายตา แต่เขาก็เป็นมืออาชีพมากที่อดทน และใจเย็นให้ข้อมูลลูกค้าละเอียดมาก ตามที่ขอ

“ Wow! This is great! I love it.” เฮ้อ… หลังจากสองชั่วโมง และร้อยคำถาม สัญญาณการซื้อก็มา

“ Great! I’m so happy you like what I have for you.” โอ๋ตอบเขาไป เพื่อเสริมพลังให้เขารู้ว่า ความพอใจของเขานั้นมีความหมายกับเรา

“ Oh for sure,I love it very much, otherwise I won’t wasted your time. I appreciate your patience with me.”

ยังไม่วางจองค่ะ แต่เขาก็ได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจไปครบถ้วน แล้วฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ในระหว่างนั่งรถกลับมาส่งลูกค้าที่โรงแรม

“ I appreciate your time and all support.Every time doing business with you, it’s smooth and efficient. Today, I am going to make a big purchasing. It’s triggered me a lot to get anxiety.

I hope you can notice I talked too much .And you just be there and I feel calm and ease from you.This afternoon, I haven’t check my phone even one time. How balance you are. This is powerful … It’s big compliment from me, Khun Oh.”

บางคนอาจสงสัย ลูกค้าคนนี้จะสื่อว่าอะไรใช่ไหมคะ
เขากำลังชื่นชมโอ๋ค่ะ ไม่ใช่แค่ความรู้ในงาน แต่เขารู้สึกได้ว่าโอ๋เชื่อมกับเขาเป็นทีมเดียวกับเขา โฟกัสที่เขา เขารู้สึกปลอดภัย ไม่กดดัน

คนใหม่ๆ อาจถามว่า ลูกค้า ถามเยอะ พูดมาก จะรู้ได้ไงว่าไม่เสียเวลาฟรี?

สำหรับโอ๋ ถ้า show up ยังไงก็นับเป็น Qualified แต่จะซื้อหรือไม่ตอนนี้ ห้องนี้ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง โอ๋มีหน้าที่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น

ลูกค้าขอเลี้ยงข้าวเย็นเพราะหิวมากทั้งคู่ ได้คุยหลายเรื่องเพราะไม่ได้เจอหลายปี และสิ่งที่ส่งสัย ภายใต้สายตาพยาบาลเก่าอย่างโอ๋ ที่เห็นอยู่ตั้งแต่อยู่ที่สำนักงานขายก็เปิดเผยออกมาระหว่างมื้ออาหาร

ลูกค้ามีปัญหา Dyslexia ซึ่งเป็นการบกพร่องทางการเรียนรู้ชนิดหนึ่งและมีความท้าทายในการใช้ชีวิตมาตั้งเด็ก เพราะกระบวนการเรียนรู้และตัดสินใจของเขาไม่เหมือนคนอื่น ไม่นับเรื่องของปัญหาเครียด นอนไม่หลับ ซึมเศร้าซึ่งเป็นโรคยอดฮิตประจำถิ่นของคนยุคดิจิตอลอย่างเราๆ

เช้าขึ้นมาก็ follow up ตามปกติ ลูกค้าก็รีวิวตัวเลขที่เขาคำนวณก่อนตัดสินใจลงทุนออกมาให้ดู ถ้าใครชอบตัดสินคนเพียงผิวเผิน คงไม่เชื่อแน่ว่า คนที่เสียงดังโวยวาย พูดมาก เหมือนขี้โม้ ขี้อวด จะสามารถคิดคำนวณและมีมุมมองในการตัดสินใจลงทุนลึกซึ้งขนาดนี้

แถมบอกด้วยว่า ตัวเลขไม่น่าสนใจเลย แต่สิ่งที่ทำให้หยุดคิดถึงห้องนี้ไม่ได้ เพราะคำถามของคุณนั่นแหละว่า “ What is the main purpose of this purchasing?”

ผลตอบแทนน่ะไม่สวยหรอก แต่ถ้าได้อยู่ที่นั่น ผมต้องมีความสุขมากทีเดียว ขอใช้ความรู้สึกอยู่กับมันอีกสักคืนนะ แล้วผมจะบอก

โอ๋ก็พูดกับเขาว่า “ I’m impressed with your sharp mind,when it comes to logical and critical thinking.”

ลูกค้าเงียบไปพัก แล้วจึงพูดเสียงเครือๆว่า “ This compliments from you is mean so much for me. Thank you for all support” การได้รับคำชื่นชมในสิ่งที่เขาเก่ง มันคงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในที่ที่เขาอยู่ คำชมซื่อๆของเรา มันจึงสะเทือนเขามากขนาดนี้

เราไม่ได้เรียนวิชาต่างๆมาแค่เพื่อขายให้เก่ง โน้มน้าวให้เก่ง มีสคริปต์เจ๋งๆ คมๆ เอาไว้พูดปิดการขาย แต่มันคือการอยู่ได้อย่างดีกับตัวเอง และท่ามกลางผู้คน สามารถให้พลังและสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเขาได้ มาพบเราแล้ว ชีวิตเขาต้องดี เขาจะได้เรื่องดีๆกลับไป

นี่คืองานที่ทำแล้ว อุ่นหัวใจ 🙂

ชอบเรื่องแบบนี้กดติดตามเพจ
อสังหาฯอารมณ์ดี
https://www.facebook.com/asunghaaromdee
main-image
profile-avatar
Naowarat 2 ปีที่แล้ว
รับสมัครงาน

ทำไมเอเจนมีประสบการณ์อย่างพี่ ต้องเปิดบริษัท under franchise brand ด้วยคะ?

มีคนถามเสมอ ทำไมเลือกใช้แบรนด์ RE/MAX? ในเมื่อความรู้งานนายหน้าก็มีพอ จะเปิดเองก็ได้ เป็น Independent agent คนเดียว จดบริษัทแค่เพื่อผลประโยชน์ทางบัญชีก็ได้ ทำไมต้องอยู่ใต้คนอื่นด้วย?

เหมือนถูกถามว่า ทำไมแต่งงานกับคนนี้ มีสิทธิ์เลือกตั้งเยอะ หรือจะโสดก็ยังได้นี่

เมื่อปีก่อน ตอนตัดสินใจขยายตัวด้วยการมีบริษัทเป็นของตัวเอง มีทางเลือกเยอะค่ะ ทำเองทั้งหมดดีไหม? หรือรับข้อเสนอของบริษัทใหญ่ที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว ไปเป็นผู้บริหารดี?

ด้วยหัวใจที่รู้จักตัวเองดีมาก รู้ว่าเป็น Entrepreneur ที่รักอิสระ ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นนอกออฟฟิศ และคาดเดาไม่ได้ด้วย รู้ตัวดีว่าจะไม่ค่อยมีความสุขกับโลก Cooperate จ๋าๆ แน่ๆจึงปฏิเสธเงินเดือนและข้อเสนอที่ดีงามนั้นไป อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน แต่ตอนนี้ยังค่ะ 🙂

เปิดเองดีไหม? ….การสร้างระบบ สร้างคน เป็นคนละเรื่องกับการออกขายเอง ตัวเองเป็นชาตินักขายโดยกำเนิด งานระบบ งานไอที เป็นขั้วตรงข้ามที่ต้องสู้มาก และจะช้าเสียเวลาทั้งชีวิตแน่ๆ ถ้ามานั่งซื้อระบบ CRM สำเร็จรูป มาปะติดปะต่อเอง เก่งสุดคงต้องจ้าง หรือพาร์ทเนอร์ใครสักคนมาทำ ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายก่อนทำเงินอีกล่ะ
Excel ได้ไหม ถูกดี? แต่มันไม่โตไง ดีกว่าเอาถ่านขีดฝาบ้านหน่อยเดียวเองอ่ะ

งานเทรนนิ่งล่ะ? เรื่องสอนคน เรารู้ว่าเราเก่ง แต่การลงมือนั่งเขียนโปรแกรมเอง สร้างระบบประเมินเอง ในขณะเดียวกันต้องขาย และรับมือจัดการเอเจนใหม่ เก่า งานหลังบ้านต่างๆ ด้วยตัวเอง ฉันคงเปลี่ยนจากคุณครูผู้ทรงภูมิ พร้อมให้คำปรึกษา เป็น เจ๊ประสาทแตก ที่ต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองเพียงคนเดียว และสุดท้ายก็ไม่มีใครอยู่ด้วยได้ เนื่องจากเครียดจัด และเป็นพื้นที่มาคุ ให้คนรอบข้าง แทนการเป็นกำลังใจและความเป็นไปได้ให้พวกเขา

ถ้าคิดแค่เอาเงินตัวเองคนเดียว ทำอะไร ยังไงก็ได้ค่ะ แต่ Core Value ในหัวใจ คือการสร้างคน สร้างเอเจนที่เป็นมืออาชีพ มาดูแลลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ ลูกค้ามีความสุข เอเจนมีผลลัพธ์ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มันไม่ใช่เรื่องของ “ฉัน” คนเดียวอีกต่อไป คนของฉันต้องมีระบบสนับสนุนทั้ง Knowledge and IT ที่ช่วยให้ชีวิตเขาง่ายขึ้น และมันต้องไม่ผูกอยู่กับ”ฉัน”คนเดียว เพราะฉัน แก่ ป่วย ได้และตายเป็น

RE/MAX เป็น Best choice ที่ค้นพบ

IT ก็มีดีในระดับที่เกินคำว่าใช้งานได้ บริหาร inventory บริหารคน บริหารยอดขาย ได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และมือถือ มีสารพัดแอพพลิเคชันพ่วงมาให้ใช้ทั้งทำคลิปทำ artwork ไม่ต้องกังวลเรื่องควบคุมแบรนด์ มี IT support ที่ไม่ต้องจ้างเพิ่ม นั้นก็เซฟครึ่งชีวิตเจ้าของบริษัทแล้ว

ความรู้ในการทำ Exclusive listing ที่หามานาน มีอยู่ในนี้แบบกลั่นมาจาก 49 ปีอายุขัยของ RE/MAX ที่เปิดทำการในร้อยกว่าประเทศทั่วโลก ความรู้งานเอเจน และการเป็นผู้บริหาร Broker ที่ดี ในตำรา RE/MAX ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ กลั่นจากความรู้ของผู้ประสบความสำเร็จจริงๆในการสร้างคน สร้างบริษัท

ตำราพร้อม ห้องเรียนพร้อม ระบบตรวจสอบ พัฒนาแบบชัดเจน พร้อม!

ชื่อแบรนด์ที่แข็งแรงพอสำหรับเอเจนทีมงาน ที่ออกไปทำงานได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ต้องกังวลเวลาคุยเรื่องเงินเรื่องทอง กับผู้ซื้อผู้ขาย และเวลามีใครถามว่า “เธอมาจากบริษัทอะไร?”

งานจรรยาบรรณ งานกฏหมาย Everything are in place
เหมือนเจอขุมทรัพย์ และยกภูเขาออกจากอก

เครื่องมือทั้งหลายทั้งปวง ถูกออกแบบมาให้มีคนเข้ามาใช้อย่างไม่จำกัด หน้าที่โอ๋ คือเรียนรู้ ใช้มัน และ Recruit agents มาใช้ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ทำบริษัท ได้เงินน้อยลงนะคะ จะคาดหวังเงินที่มากขึ้นได้ ก็ตอนที่สร้างระบบงานแล้วเคลื่อนตัวได้ เมื่อคนและเครื่องจักรทำงานร่วมกันได้ดีแล้ว ซึ่งไม่มีใครการันตีได้ว่าจะกี่วัน กี่เดือน กี่ปี แต่ก็เลือกทำค่ะ เพราะพื้นที่เล็กๆ ไม่ใช่ที่อยู่อีกต่อไป และการคิดถึงแต่ตัวเองมันเล็กเกินไปที่จะขับเคลื่อนชีวิตให้มีชีวา

ธุรกิจแห่งการสร้างคน ให้เติบโต ด้วยวิชาอาชีพที่รัก เป็นสิ่งที่เติมเต็มหัวใจเป็นอย่างยิ่ง มันไม่มี”ฉัน” ที่สลักสำคัญอะไรในนั้นหรอก ฉันเห็นแต่ความหวังและอนาคตของคนรุ่นใหม่ ที่จะเติบโตไปด้วยกัน

วันคืนที่ร้องไห้ด้วยความเครียด ความไม่รู้ และต้องปาดน้ำตาตัวเองให้แห้งเร็วๆเพื่อสู้ต่อ ช่วยส่งมาให้เป็นวันนี้ ให้เลือกทางนี้…

ไม่รู้ตอบคำถามไหม แต่อยากให้รู้ว่า การนำใครเข้ามาในธุรกิจ ไม่ได้หวังให้เขามาเป็นเอเจนช่วยงาน งานของโอ๋ดีอยู่แล้ว ในระดับส่วนบุคคล และการเติบโตไปอีกหลายๆขั้น มันต้องช่วยคนอื่นที่พร้อม ให้สำเร็จ ตนเองจึงจะสำเร็จ

ว่าจะไม่ขายของนะเนี่ย ใครอ่านมาถึงตรงนี้ สนใจมาร่วมทีมกัน เราจะมี Recruitment session วันที่ 9 ก.ค.นี้ ช่วงเช้าก่อนเที่ยง รายละเอียดสถานที่จะแจ้งอีกครั้งหนึ่ง
เราจะคุยกันว่า งานเอเจนของเรายังขาดอะไร ที่จะทำให้เราสำเร็จได้เร็วขึ้นมากขึ้น ถ้าสนใจ และเคมีตรงกันก็ทำงานด้วยกัน ถ้าไม่ใช่เราก็เป็นเครือข่าย เป็นเพื่อนกันได้ค่ะ

สนใจทักมาในเมสเสจนะคะ ไลน์/WhatsApp +66611628791
main-image
profile-avatar
Naowarat 2 ปีที่แล้ว
ความรู้

เฮ้อ....ไม่มีลีด ทำไงดี?

เอเจนที่ทำงานกับบริษัท บางคนอาจบ่นว่า " ทำไม ไม่มีลีดให้นะ พักนี้ ลีดไปไหนหมด?" งานหด เงินก็เลยน้อย และพาลไม่อยากอยู่กับบริษัทนี้ไปเลยก็มี

ต้องกลับมาพิจารณาดูอย่างนี้ค่ะ

ทรัพย์จะขายได้ ราคาต้องใช่ และมีการเข้าถึงลูกค้าที่เพียงพอ ถ้าคุณมั่นใจว่าราคาที่ได้มา มันถูกต้องแล้ว แข่งขันกับคนอื่นได้แล้ว โอกาสในการขายก็เกิน 50% แล้วค่ะ เพราะของดี ราคาดี เป็นที่ต้องการ ใครๆ ก็อยากขุดหา

มาว่าด้วยเรื่อง การเข้าถึงลูกค้า หรือ Exposure เอาของมาขาย เราก็ต้องรู้ด้วยว่า ลูกค้าเรา เขาจะมาจากช่องทางไหน เขาใช้สื่ออะไรหา ถ้าจะขายคอนโด ก็ต้องเลือกตึกที่คนนิยม ได้ของดี ราคาเริ่ด ก็ต้องลงทุนเพิ่ม ปักหมุดไว้ข้างบน แพคเกจบริษัท เขาอาจซื้อรวมมา ไม่ได้มีปักหมุด คุณรับของมาขาย มีหน้าที่ขายให้ได้ ก็ต้องลงทุนดันล่ะค่ะ ถ้าคุณเชื่อว่ามันจะขายได้จริง!

ยกเว้นว่า คุณก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่ามันจะขายได้ เลยไม่กล้าลงทุน 😎 คุณรับทรัพย์มาเอง ยังไม่มั่นใจ แล้วใครจะมาลงทุนโฆษณาพิเศษเพิ่มเติมให้คุณล่ะคะ

บางคนบอกว่า "ของหนูทำ open listing ค่ะ บริษัทรับผิดชอบส่งลีดให้ หนูก็หาทรัพย์มาใส่เยอะๆ ตามที่บอก แต่ก็เงียบ ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น"

ค่ะ มันจะไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะทรัพย์นี้ รูปนี้ก็ไปทุกบริษัท ราคาเหมือนกัน conditions เหมือนกัน แล้วเวลาโพสต์ มันก็ดันๆกันลงมาข้างหมด แล้วทำไมลูกค้าต้องเหนื่อยรูดลงมาดูห้องคุณด้วย

เขาหาจนเหนื่อยแล้ว ก็คลิกมันหมดนั่นแหละ ใครโทรกลับมาไวที่สุด คนนั้นก็ได้ลูกค้าไปละกัน!

นั่นคือเกมส์ของ Open listing ที่ใช้ความเยอะ และความเร็วในการแข่งขัน

เอาล่ะ ดีกว่านั่งบ่นกระปอดกระแปด โทษบริษัท โทษลูกค้า โทษเวรกรรม ถามตัวเองค่ะ ว่ายังอยากมีรายได้จากการเป็นเอเจนไหม? ถ้าอยาก ต้องทำอะไรบ้าง? แล้วลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองเสียแต่วันนี้ค่ะ

ทุกวันนี้ คนเขียน ก็ไม่ได้ลีดถล่มทะลายจาก web portals นะ เพราะถือว่า นั่นคือ reactive marketing ตัวเรานั่นแหละที่ต้องคิดต่อไป ว่าถ้าทางนี้ไม่เวิร์ค ทำอะไรได้อีก? ทุกช่อง ทุกทาง ทุกรู

ท่านทำแบบนั้นหรือยัง?

ทำงาน ทำงาน ทำงาน! 😎
main-image
profile-avatar
Naowarat 2 ปีที่แล้ว
ความรู้

Digital disruption in Real Estate will eat up our career as a real estate agent?

ไปงานอีเว้นท์ Future of Proptech มาเมื่อวันก่อน ได้เห็นแนวคิดที่แตกต่าง แต่น่าสนใจ ระหว่างคนทำ Proptech start up, Traditional Agent และ Consumers ทั้งซื้อและขาย จากคำถามบนเวที

Proptech เบอร์ต้นของบ้านเรา ที่มาแรงแซงโค้ง จี้หลังเบอร์หนึ่งอย่าง DDProperty แบบหายใจรดต้นคอ มีความตั้งใจ และมีผลลัพธ์ที่ชัดเจนมาก ในการที่นอกจากมี Listings ให้ลูกค้าเยอะแล้ว ยังมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจใกล้เคียงกับคำว่าครบถ้วนให้ด้วย

ข้อมูลตึก ข้อมูลทรัพย์ที่หลายทรัพย์ทำ Matter port ให้ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ทุกทรัพย์ไหม หรือเฉพาะ Exclusive listing หรือ luxury แต่ก็ยกระดับการนำเสนอ listings ในอินเตอร์เน็ตในแบบที่ เอเจนระดับทั่วไป ยังยากที่จะตามทัน

ไม่ได้กล่าวถึงความถูกต้อง ( Accurate) ของข้อมูลทั้งหมด duplicate listings.ยังมี แต่ความพยายามที่จะใส่ข้อมูลให้ครบ ตามที่ลูกค้าต้องการ เมื่อจะเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ ก็นับเป็นก้าวใหม่ ก้าวใหญ่ ที่น่าชื่นชม

เป็น Portal และ Agency ที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว

เขารู้ Pain point ลูกค้าและลงมือแก้ไข

ประเทศนี้ มี pain เรื่องข้อมูลไม่ถูกต้อง ซ้ำซ้อน ไม่โปร่งใส ปิดขายแล้วไม่มีที่บันทึก Sale price เอเจนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ใกล้ชิดทรัพย์จริงๆ ก็ไม่รู้ จึงแนะนำเจ้าของตั้งราคาก็ไม่ได้ ผู้ซื้อทำได้ก็แค่เดา และต่อราคาแบบ"หักคอ' ผู้ขาย

มันทำงานยากนะ

Consumers ในงาน ก็ยังบ่นถึงข้อมูลทรัพย์ที่ซ้ำ ไม่ครบถ้วน ทิศไหน ชั้นไหน กว้างยาวสูง ปักหมุดโลเคชั่นตรงไหน ยังอยากให้ชัดเจน และถูกต้องขึ้นอีก ทำไม ไม่มี VDO ทุกทรัพย์ จะมี Matter port ทุกทรัพย์ได้ไหม 😯 ความต้องการลูกค้า ขยับสูงขึ้นไปเรื่อยๆแหละค่ะ คุณผู้อ่าน

ตัดภาพมาที่คำถามเอเจน " Proptech will eat up all agents?"

ในความเป็นจริงคงยาก เพราะตลาดมันใหญ่ เอเจนเก่งๆ มี Strength ชัดเจน เขาอยู่ได้แน่นอน

แต่เอเจนที่ได้แต่อ้างว่าตัวเอง ไม่เก่ง tech ยุ่ง มีทรัพย์เยอะแต่ไม่มีเวลาเอาขึ้นเวป อย่าว่าแต่ข้อมูลจะครบเลย คัดมาขึ้นเวปขายยังไม่ทัน ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลิต junk listings คุณคงจะอยู่ยากเป็นพวกแรก จริงๆ

ทรัพย์เพิ่งเอาขึ้นเวปเมื่อวาน มีเอเจนจะขอโค คุณต้องโทรไปอัพเดทเองรายวันเวลามีคนถาม? และให้คำตอบกับโคเอเจนว่า " เช่าไปแล้ว!" ตลกดีอ่ะ เพิ่งเอาขึ้นเมื่อวาน และคุณไม่รู้ สถานะทรัพย์เนี่ยนะ 😄 ขรรม... ขนาดเลือกโทรหาที่เพิ่งเอาขึ้นใหม่ๆ ยังโป๊ะ!

มันแสดงให้เห็นถึงช่องว่าง ระหว่างการสื่อสารของเจ้าของ และเอเจนติดทรัพย์

จะแก้ไขไหมอ่ะ? เสียโอกาสคุณนะ เปลืองเวลา เปลืองค่าโทรศัพท์ เปลืองเงินลงทรัพย์ที่ไม่พร้อมขายอีก ทำงานแบบนี้ ทำไปทำไม?

หมดยุคการมีเยอะๆ ไว้ ( หลอก) โชว์ลูกค้า ว่ามีทรัพย์เยอะ ราคาดีแล้วล่ะ คนที่เล่นเกมส์นั้น เขาทำได้ดี มีทรัพยากรเยอะและเร็วกว่าคุณมาก แบบ 24/7

ถ้าไม่ปรับ เจอ disruption เต็มๆเข้าไป อยู่เองไม่ได้ก็ต้องไปเป็นเอเจนให้เขา หรือเลิกทำไปน่ะ

แต่ถ้าจะสู้ต่อ อยู่ให้สมศักดิ์ศรีเอเจน อย่างแรกต้องพัฒนาองค์ความรู้วิชาเอเจนให้คม เวลาและความรู้คือทรัพยากรสำคัญ เรียกว่าถ้าเป็นกระบี่ ต้องฟันทีเดียวให้ขาด คุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่อง ไม่ประทับใจ เขาไม่กลับมาหาคุณหรอก ไปหาเจ้าใหญ่ที่มีทางเลือกมากกว่า ดีกว่า!

คุณเข้าใจความต้องการลูกค้า ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ให้ลึกซึ้ง คิดว่าถ้าต้องขายบ้านของตัวเอง จะรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร และต้องทำอะไรบ้าง ถ้าไม่มีความรู้แต่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ คุณจะตัดสินใจอย่างไร ต้องไปถามใคร?

คุณต้องสวมเข้าไปในรองเท้าลูกค้าน่ะ

อย่ามาถามแบบตื้นๆว่า " พี่ๆ เซ็น Exclusive ต้องทำไงอ่ะ สัญญาเป็นไง คอมเท่าไหร่ รายงานยังไง ลงโฆษณายังไงอ่ะ" มันแสดงให้เห็นถึงระดับจิตใจว่า คิดแต่จะ " เอา" อย่างเดียว คุณไม่สนใจลูกค้า และไม่ลงทุนอะไรเลย แม้แต่จะหาความรู้ ซึ่งเป็นต้นทุนของตัวเอง

คนที่ทำงานฝั่งผู้ขาย ต้องเลิกอ้างเลยล่ะ ว่ายุ่ง ไม่มีเวลาที่จะทำงาน เก็บข้อมูล listing ให้ครบถ้วน คุณเลิกเองที่จะทำงานนี้นี่ เกมส์มันเปลี่ยนแล้ว ใครๆ ก็เข้ามาเล่นเยอะขึ้น เงินง่าย มันไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว ถ้าไม่เปลี่ยน คุณก็อด!

คุยกับตัวเองให้จบ จะทำงานนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร? และทำอย่างไรลูกค้า จึงจะเลือกคุณ?

โชคดีค่ะ
main-image
profile-avatar
Naowarat 2 ปีที่แล้ว
ความรู้

สิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้ ถ้าเราไม่รู้ว่า เราทำอาชีพเอเจนอสังหาริมทรัพย์เพราะอะไร เราก็จะยังมีอาการไม่มั่นใจ ไม่กล้าตรงไปตรงมากับผู้ซื้อ ผู้ขาย และกับตัวเอง

เราไม่ได้ทำอาชีพนี้แค่เพื่อเงินหรอก เพราะทำอาชีพอะไรก็ได้เงิน ก็รวยได้ทั้งนั้น ถามตัวเองให้ลึกไปอีกสักหน่อย ทำไมต้องเป็นอาชีพนี้?

โอ๋ก็เหมือนกับทุกๆคน ที่ต้องการเงินกินใช้ และเดินทางสู่ชีวิตบั้นปลายที่สบายใจ เป็นอิสระ

อาชีพเป็นแค่เครื่องมือ และมันจะดีกว่าไหม ที่ปลายทางที่อยากไป ที่เรียกว่าความสบายใจ และเป็นอิสระนั้น สามารถผลิตได้รายวัน รายชั่วโมง จากเครื่องมือที่ทำอยู่

โอ๋รักอาชีพนี้ เพราะทำให้เติบโต และเรียนรู้ทุกวัน ทั้งองค์ความรู้ใหม่และการเข้าใจตัวเอง

เครื่องมือนี้เหมือนไม้กายสิทธิ์ที่จะต้องทะนุถนอมและเช็ดถู บำรุงอย่างดี
และทุกครั้งที่ลงมือทำงาน สัมผัสได้ถึงความหวัง คุณค่า ที่ผลิตขึ้นมาจากไม้กายสิทธิ์นี้

และแม้ในวันที่แสนยาก ก็ค้นพบความทรหดอดทน และความคล่องตัวในการรับมือเรื่องยากๆ ของตัวเองที่เก่งขึ้นทุกวัน

มันไม่ใช่เรื่องโชคดีที่เจอ passion แต่โชคดีที่คิดเป็น และตั้งมุมมองเป็น ปลายทางคืออนาคต แต่ชีวิต มันคือตอนนี้ เราจะอยู่กับตอนนี้อย่างไรให้มีความสุขล่ะ?

เราจะยอมเป็นคนไม่มีความรู้ในกระบวนการทำงาน การเจรจาต่อรอง ให้ผู้ซื้อผู้ขาย เขาตบเราไปมาเหมือนลูกปิงปองไปเรื่อยๆ แลกกับเศษเงินที่แล้วแต่เขาจะเมตตา งั้นหรือ?

เราเลือกจะใช้เวลาชีวิตแบบไร้ทิศทาง ให้ร่างกายพัง สุขภาพจิตพัง เพราะข้ออ้างเรื่อง กลัวลูกค้าหลุด แทนที่จะลงมือฝึกนิสัยการทำงานของตัวเองใหม่อย่างจริงจัง อย่างนั้นหรือ?

หรือเราจะเลือกลุกขึ้นมา สบัดผ้าคลุมเงา ที่ขังเราไว้เป็นแค่ " เงา " ของการซื้อขาย เปลี่ยนตัวเองให้เฉิดฉาย เปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้ และความมั่นใจ เป็น Deal maker เป็นผู้ที่พึ่งพาได้ของลูกค้าล่ะ?

ความรู้มีเต็มโลก ทั้งฟรี และจ่ายเงิน อยากรู้อะไรก็ใฝ่หา มันต้องเจอแน่ๆ แต่ที่ไม่เห็นเพราะไม่ยอมตื่น ไม่ยอมทิ้งความเชื่อจำกัดเดิม .... ฉันทำไม่ได้ เพราะว่า....บลาๆๆๆ

แต่คนที่ต้องตื่นขึ้น และบอกตัวเองได้ว่า ถึงว่าต้องเปลี่ยน ต้องเรียนรู้ใหม่ ทำใหม่

มันมีแค่คุณเท่านั้นนะ
คนที่จะสร้างความสุขให้คุณได้ มีแค่คุณคนเดียวจริงๆ

เพจ อสังหาฯอารมณ์ดี
https://www.facebook.com/asunghaaromdee/
main-image
profile-avatar
Naowarat 2 ปีที่แล้ว
ความรู้

อยากรู้ไหมคะ ว่าในสายตานักลงทุนต่างชาติ เขามองประเทศไทยเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย? จะทำตลาดอสังหาฯ สำหรับลูกค้า International จะเอาอะไรไปขายดี?

โอ๋อยากทำ live เรื่อง เปรียบเทียบโอกาส และความน่าสนใจในการลงทุนอสังหาฯ สำหรับประเทศในแถบเอเชีย 🤗

อยากรู้ไหมคะว่า ประเทศเราอยู่ในลำดับไหน ในสายตานักลงทุนต่างชาติ และเพราะอะไร?

สนใจทำตลาด International investment เราควรคัดเลือกทรัพย์แบบไหนไปขาย?

มีความเป็นไปได้อะไรบ้าง ที่จะพาตัวเองออกสู่ตลาดสากล?

ถ้ามีคนอยากรู้ เกิน 50 คน จะทำการบ้านเรื่องนี้มาคุยให้ฟังค่ะ

ตอนนี้ประเทศเปิด นั่งจิบเบียร์ จิบไวน์ชิลๆ แล้วไปเจอนักท่องเที่ยว หรือนักลงทุนที่เข้ามาหาโอกาส และอยากรู้จักตลาดอสังหาฯไทยแลนด์ คุณต้องขายได้แบบทันท่วงทีว่า Why Thailand? and Why me? แล้วนะคะ 🤗
main-image
profile-avatar
Naowarat 3 ปีที่แล้ว
ความรู้

เคล็ดลับการขายอสังหา เพื่อทำกำไรอย่างชาญฉลาด

1. เมื่อมีคนมาเสนอซื้อหลายราย นั่นหมายถึงภาวะตลาดที่ดี ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีแบบนี้ตลอดไป อย่าเล่นตัวค่ะ ถ้าได้กำไรพอสมควรแล้วก็ควรจะขายค่ะ

2. อย่าขายตอนจำเป็นต้องรีบใช้เงิน เพราะการขายอสังหาฯ ใช้เวลานาน อาจถูกกดดันให้ลดราคาต่ำกว่าทุนได้

3. ช่วงเวลาตลาดดี คนมีกำลังซื้อ นั่นคือเวลาดีที่จะขาย

4. ควรดูแลทรัพย์ให้อยู่ในสภาพดีพร้อมชม พร้อมขายอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น

5. ใช้บริการนายหน้า ดูแลการขาย เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ในการปิดขายอย่างราบรื่น รวดเร็ว เพราะนายหน้ามีข้อมูลและเชี่ยวชาญในขั้นตอนเหล่านี้

คลิปนี้มีคำตอบค่ะ #อสังหาฯอารมณ์ดี
คลิกดูวีดีโอลิ้งค์ด้านล่างเลย
https://www.facebook.com/asunghaaromdee/videos/711361173221964/
main-image
profile-avatar
Naowarat 3 ปีที่แล้ว