หลายคนเคยเห็น แต่ไม่รู้ มันสำคัญอย่างไรล่ะสิ...มารู้จัก “หมุดหลักฐานแผนที่“ กันเถอะ
อย่างไรก็ดี “หมุดหลักฐานแผนที่” ในประเทศไทยมีอยู่ 2 ประเภท
1.หมุดหลักฐานทางดิ่ง คือหมุดหลักฐานที่ให้ค่าความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (Mean Sea Level)
2.หมุดหลักฐานทางราบ คือหมดหลักฐานที่ให้ค่าพิกัดทางราบเป็นละติจูด (Latitude)และลองจิจูด (Longitude) การหาค่าของหมุดหลักฐานทางราบใช้การสำรวจด้วยวิธีการงานโครงข่ายสามเหลี่ยมและวงรอบ
ปัจจุบันกรมที่ดินได้เปลี่ยนมาใช้วิธีการทาง GPS โดยวิธีการรังวัดแบบสัมพัทธ์ (Relative) ค่าพิกัดที่ได้จะเป็นระบบ UTM (Universal Transverse Mercator) เป็นวิธีบอกลักษณะพิกัดทางภูมิศาสตร์ในลักษณะกริด (Grid Coordinate) ระบุตำแหน่งของจุดอ้างอิงบนผิวโลก โดยระบบพิกัดอาร์ทีเชียนซึ่งแบ่งพื้นผิวโลกออกเป็น 60 โซน
ระบบพิกัดภูมิศาสตร์ (Geographic Coordinate System - GCS)
ระบบพิกัดภูมิศาสตร์ (Geographic Coordinate System - GCS) นิยมใช้ระบบพิกัดกริด (Grid Coordinate) หรือ UTM (Universal Transverse Mercator) ซึ่งบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลกด้วย 2 ค่า คือ 1) ลองจิจูด (longitude) 2) แลตติจูด (latitue) โดยอ้างอิงกับเส้นเมอริเดียนหรือเส้นแนวดิ่ง (meridian) และเส้นศูนย์สูตรหรือเส้นแนวราบ (Equator)
ระบบพิกัดกริด (Grid Coordinate) หรือ UTM (Universal Transverse Mercator)
» ระบบพิกัดภูมิศาสตร์ของประเทศไทยมี 4 ชนิด
1) EPSG:24047 Indian 1975 / UTM Zone 47N
2) EPSG:24048 Indian 1975 / UTM Zone 48N
3) EPSG:32647 WGS 84 / UTM Zone 47N
4) EPSG:32648 WGS 84 / UTM Zone 48N
ที่มา: https://dsdi.msu.ac.th/?article=programming&fn=week-10
วิทยาการข้อมูลและนวัตกรรมดิจิตอล
# plamuektooktee
# หมุดหลักฐานแผนที่
# ช่างรังวัดแผนที่
# ช่างรังวัดกรมที่ดิ
# ช่างรังวัดเอกชน
# นายหน้าอสังหาฯ
# ความรู้อสังหาฯ