ทำเอเจ้นท์อสังหาฯ สายลูกค้าต่างชาติอย่างไรให้ยั่งยืน ?

ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกจนติดอันดับเบอร์ต้นๆ ของโลกทุกปี และนั่นเป็นเหตุให้นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จากต่างประเทศเริ่มสนใจประเทศไทย ซื้อปล่อยเช่าระยะสั้น ระยะยาว ซื้อเป็น Holiday home, Retirement home มาตั้งแต่สมัยเมืองไทยมีคอนโดใหม่ๆ

อสังหาฯ ไทย เลยจุดพีคหลายปีมาแล้ว เมื่อตอนนั้นกำลังซื้อจากจีน หลั่งไหลเข้ามา เพื่อวัตถุประสงค์ในการปกป้องทรัพย์สินจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่ความต้องการด้านการลงทุนที่แท้จริงเหล่านี้ อธิบายได้ในสถานการณ์เดียวกัน กับรัสเซีย ที่มีปัญหาภัยสงคราม ในช่วง1-2 ปีนี้

สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดับลงเสมอ

ปีนี้ Dev ไทยสร้างคอนโดน้อยลง เพราะ Oversupply ขายยาก หันไปผลิตบ้านหรูรับผู้ซื้อต่างชาติ กลุ่มหนีร้อนมาพึ่งเย็น

แล้วถ้ากำลังซื้อกลุ่มนี้เต็มแล้วล่ะ ยังไงต่อ ?

ในมุมมองเอเจ้นท์ ปิดขายก็ได้ค่าคอมฯ ไม่ว่าจะขายสินค้าชิ้นไหน ก็ดีทั้งนั้น แต่การขายสินค้าที่ผันแปร ตามฤดูกาลอย่างนี้ คงฝากผีฝากไข้ระยะยาวไม่ได้มากนัก เอเจนจีน พาลูกค้ามาซื้อในยุคก่อนหน้านี้ ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ร่ำรวยแซงหน้าเอเจนไทย สุดท้ายตลาดซา ก็หนีหาย เลิกทำ ทิ้งห้องเช่าระยะสั้นที่เคยขายเคยดูแลไว้เต็มตึก

มันขึ้นลงเร็วเหลือเกิน ทำพอเป็น Cherry on top ได้ แต่อย่าลืมว่าเราอยู่ในประเทศนี้ หนีหายไปไหนไม่ได้ ตลาดดี ตลาดร้าย ลูกค้าต้องกลับมาหาเรา คนที่ขายไว้เสมอ

ตอนนี้สถานการณ์จีนเริ่มไม่ดี รวมทั้งทั่วโลกชะลอการซื้อ ขนาดเมือง Birmingham ในอังกฤษยังประกาศล้มละลาย ไอ้การที่จะฝันเฟื่อง วิ่งไล่ตามกำลังซื้อฟู่ฟ่าเหมือนก่อน คงไม่ได้แล้ว อสังหาฯประเทศไทย โครงการใหม่ ก็แพง และล้นตลาดไปแล้วในสายตานักลงทุน

แนวโน้มโลกยุคหน้า ซึ่งไทยแลนด์ก็ไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนาอีกต่อไปแล้ว เราจะเข้าสู่สังคมสูงอายุ คนรุ่นใหม่จะมีบ้านยากขึ้น เพราะทุกอย่างแพงไปหมด เงินเฟ้อกระจัดกระจาย รายได้ไม่เพียงพอยื่นกู้ "บ้าน" จึงจำเป็นต้อง "เช่า"

และไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร คนมีเงินก็ต้องหาที่วางเงินให้งอก ในที่ใดที่หนึ่ง เทรนด์ขายคอนโดใหม่ บ้านหรูอาจผ่านไป แต่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์กับที่อยู่อาศัยจริง ที่คนพื้นที่จ่ายไหว จะมา และคงอยู่ไปอีกนาน

The Best is working with end users.นี่คือสิ่งที่ Mentor ชาวสิงคโปร์เคยสอนไว้

แรงงานที่เพิ่งทำงาน 2-3 ปีแรก อาจไม่มีความสามารถเช่าห้อง 8 ล้าน ในราคา 35,000 บาท ต่อเดือน แต่คอนโดมือสอง ห้องเก่า รีโนเวทใหม่ อาจทำให้ผู้เช่าเข้าถึงได้ ในราคาประหยัดกว่า หรือหากมีความสามารถนำพาเงินทุนต่างชาติ มาลุงทุนในโปรเจค ขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก โดยเอเจนท้องถิ่นช่วยดูแล ก็ยังสามารถเป็นไปได้

โอกาสเป็นของคนเห็นช่อง ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นปลาใหญ่เสมอไป

ซึ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความรู้ในพื้นที่ และการสร้างสายสัมพันธ์ระยะยาว กับนักลงทุน ไม่ใช่ ขายๆแล้วจบ เหมือนการพามา Rar rar ขายโครงการใหม่ อย่างในอดีต

เงินจะหมุนไปเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร คุณเลือกได้ว่า จะขายวิลล่า หรือเพ้นท์เฮ้าส์อีก ยี่สิบหลัง ได้เงินเพียงพอ แล้วเลิกทำก็ได้

หรือเลือกเติบโต เหมือนดักแด้ออกจากรัง ในอุตสาหกรรมอสังหาฯ และมองไปในเทรนด์อนาคต ว่าจะนำพานักลงทุนต่างชาติทีมีอยู่ ไปสร้างเงินจากโปรเจคที่ยั่งยืนกว่าได้อย่างไร นั่นน่ะ ใช้ วิสัยทัศน์ ปัญญา และความสามารถของคุณล้วนๆเลย 😘