กับดักของนายหน้าค้าที่ดิน

เห็นนายหน้าที่เล่นที่ดินหลายคน
บ่นกันว่าเจอแต่ทุนลมมั่ง
ไม่มีทุนมีแต่นายหน้ามั่ง
ประกาศตามหานายทุนมั่ง
.
บางทีก็คิดสงสัย
เค้าอยู่คนละมิติกับเรารึเปล่า
.
เท่าที่ทำงานมา
นายทุนเยอะมากนะ
และแต่ละคนมีกำลังซื้อด้วย
.
แต่การที่เค้าจะลงทุนซื้อ/เช่า/ขายฝาก
หรือธุรกรรมใดๆสักแปลง
นั่นคือเงินหลักล้านที่เค้าต้องลงไป
.
เค้าต้องคิดพิจารณารอบด้าน
กว่าจะเลือกแปลงไหนสักแปลง
แต่นายหน้าหลายคน
กำลังเสนอที่ดินในเชิง #ยัดเยียด
.
เช่น นายทุนต้องการที่กรุงเทพ 2 ไร่
เห็นหลายคนไปเสนอต่างจังหวัด
ด้วยพื้นที่หลัก 100 ไร่ 10 ไร่
.
ที่ดินไม่ตรงโจทย์กับความต้องการของนายทุนเลย
เอ้อ แล้วมันจะจบกันได้ไง
.
หรือบางคนเห็นว่าทุนกำลังหาที่ดิน
ก็พยายายามส่งที่ดินที่ราคาแพงๆไป
เผื่อฟลุ๊กเจอนายทุนหน้ามืดตกลงซื้อ
.
จะบอกเคล็ดลับการเสนอที่ดินให้อย่างนึง
นั่นคือการคิดแบบ “ใจเขาใจเรา”
.
ลองนึกถึงตัวเองจะซื้อที่ดินสักแปลง
อยากได้ที่ดินราคาสูงหรือราคาต่ำ?
ทุกคนอยากซื้อราคาต่ำ
แต่เจ้าของหลายคน
อยากขายราคาสูงกันทั้งนั้น
แล้วจุด match กันมันอยู่ตรงไหนล่ะ?
.
ถ้าจะเป็นนายหน้ามืออาชีพ
ต้องเจียราคาที่ดินที่แท้จริงให้กับคนขาย
ว่าที่ดินที่เจ้าของกำลังขายอยู่นั้น
มีศักยภาพแค่ไหน
ราคาตลาดอยู่ที่เท่าไหร่
หรือถ้าสายเก๋าๆหน่อย
สามารถทำฟิส
และเคาะตัวเลขราคาประเมินแบงค์เองได้เลย
.
มันจะทำให้รู้ว่า
ราคาที่เจ้าของตั้ง
สูงไปหรือต่ำไปรึเปล่า
.
ถ้าเราสามารถแกะราคาที่แท้จริงออกมาได้แล้ว
แต่เจ้าของยังไม่ยอมรับเงื่อนไข
ก็ต้องถามเจ้าของเพิ่มว่า
รีบขายแค่ไหน
.
ถ้าได้คำตอบว่า ไม่รีบขาย/เรื่อยๆ/ไม่ร้อน
ก็จับเคสนี้เค้าลิ้นชักไปก่อนได้เลย
ไม่ต้องไปทำการตลาดให้เปลืองเงิน
.
และเราสามารถเอาไปเป็นตัวเทียบกับแปลงอื่น
ให้แปลงที่เรามุ่งหวังขายออกได้ไวขึ้น
.
มันไม่มีนายหน้าที่ไหน
อยากกดราคาขายเจ้าของหรอก
เพราะการที่ราคาลดลง
นั่นหมายถึงค่าคอมที่จะได้ก็ลดลงด้วย
.
แต่!!!!!
เราต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่มโน
ราคาบางแปลงอวกาศมาก
ร่อนจนไฟล์หมดอายุเป็นสิบรอบก็ยังขายไม่ได้
เพราะคุณไม่วิเคราะห์ราคาที่เป็นไปได้ก่อนไง
.
มองแค่ว่าราคาร้อยล้าน พันล้าน
ถ้าขายได้จะได้ค่าคอมกี่สิบล้าน
คือมึงโลภละไง ฮัลโหล!!! ตื่น!!!
.
ลองเปลี่ยนความคิดที่ว่า
เสนอแปลงที่ดินราคาสูงๆ
ศักยภาพที่ดินจัดเต็ม
เพื่อจะได้ค่าคอมเยอะๆ
เป็น…
เสนอแปลงที่ดินราคารองลงมา
แต่มีศักยภาพใกล้เคียงกับราคาสูงๆ
จบดิลกันได้จริง
Keep relation กันไปนานๆ
.
รายได้ของนายหน้า
เกิดจากการเอาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นตัวตั้ง
ไม่ใช่…
เกิดจากการเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง
.
สมการมันง่ายมากนะ
มันง่ายพอๆกับ
เงินออม = เก็บก่อนใช้ หรือ ใช้ก่อนเก็บ
เท่านั้นเลย
.
แต่หลายคนที่ทำงานยังไม่สำเร็จสักที
ไม่ได้เกิดจากนายทุน
แต่เกิดจาก”ความโลภของตัวมึงเอง”นั่นแหละ
จนทำให้นายทุนไม่อยากร่วมงานต่อ
.
แล้วไปเบลมว่าเค้าเป็นทุนลม ไม่ชัดเจน
แท้จริงแล้วคุณเองยังมองไม่ออกด้วยซ้ำ
ว่าคนที่คุยคือทุนจริงหรือทุนลม
สุดท้ายก็โทษฟ้าโทษฝน
โทษดินโทษดาว
สุดท้ายทัศนคติของอาชีพของนายหน้าอสังหาฯ
คืออาชีพที่ต้องใช้ดวงใช้โชคเป็นหลักไปซะงั้น
.
นายทุนกำลังจะหาที่ดินทำธุรกิจอะไรสักอย่าง
นายหน้าก็ต้องกลับไป study ธุรกิจเค้าด้วย
ว่าปัจจัยในการเลือกที่ดินของธุรกิจนี้
ปัจจัยไหนเป็นตัวหลัก
.
บางธุรกิจมองทำเลเป็นตัวตั้ง
บางธุรกิจดูเรื่องการคุมต้นทุนเป็นหลัก
บางธุรกิจต้องอาศัยผังเมืองมาเกี่ยวข้อง
บางธุรกิจต้องอิงกับกฏหมายเฉพาะบางประเทศ
.
ถ้าเราเข้าใจธุรกิจของนายทุนที่กำลังจะทำอย่างชัดแจ้ง
มันจะทำให้เรามองที่ดินได้ชัดขึ้น
ว่าทุนกำลังมองหาที่ดินแบบไหน
.
มันมี hint ซ่อนอยู่ในทุก order
ไม่ใช่แค่ ทำเล-ขนาด-ราคา
แต่มันมีความ Unique บางอย่างของแต่ละธุรกิจ
ที่นายทุนเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
นายหน้ามืออาชีพเท่านั้น
ที่จะสามารถแกะปมตรงนี้
แล้วนำเสนอที่ดินได้อย่างถูกใจนายทุน
จนกลายเป็นพาร์ทเนอร์คู่ใจกันไปหลายราย
.
นายหน้าไม่ใช่แค่คนกลางในการหาผู้ซื้อผู้ขาย
นายหน้าไม่ใช่แค่คนหาจัดหาที่ดินตาม order
แต่นายหน้าเป็นเหมือน jigsaw อีกชิ้นนึง
ที่เป็นทั้งที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ
และเป็น business partner ให้กับนายทุน
.

ดังนั้นการจะเป็นนายหน้าที่ดินที่ประสบความสำเร็จ

1.วิเคราะห์ที่ดินเบื้องต้นเป็น
2.แกะราคาที่ดินได้
3.จัดทำข้อมูลและนำเสนออย่างมืออาชีพ
4.รู้ว่าทุนกำลังมองหาอะไร เข้าใจในสิ่งที่เค้ากำลังคิด หรือเค้าในใจธุรกิจที่เค้ากำลังทำ
.

4 steps ง่ายๆ
ที่การทำงานของคุณ
จะดึงดูดนายทุนเข้ามาอยู่ในมือได้อย่างมหาศาล
ลองเปลี่ยนแนวคิดการทำงาน
ลองเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ
แล้วจะรู้ว่า
นายทุนอยู่รอบๆตัวเรานี้เอง
.

Money in the air.
Investors ‘re around you.

เห็นมีอีกคนโพสมาเหมือนกัน ขอแชร์ไปด้วยเลย


#สิ่งที่เจ้าของทรัพย์เข้าใจผิด⁉️

1 มีนายหน้าเก่งๆ

2 คิดว่านายหน้าชอบหลักทรัพย์ราคาร้อยล้านพันล้าน เลยให้ค่านายหน้าน้อยๆ

3 คิดว่านายหน้ามีคนรอซื้อเต็มมือ

4 คิดว่านายหน้าต้องง้อขอขายทรัพย์ให้

5 คิดว่านายหน้าแย่งกันขายแล้วจะขายได้ไว

ใน 5 ข้อเบื้องต้นนี้ มีแต่นายหน้ามือใหม่

อยากฝึกมือทั้งนั้นเลยค่ะ ที่ตื่นเต้นไปกับคุณ
แต่มือใหม่ไม่ผิดค่ะ ดีที่ดิ้นรนอดทนทำ


#ในความจริง

นายหน้าทึ่ผ่านประสบการณ์มานานนับสิบปี

- นายหน้าเก่งคือนายหน้าลงทุน ลงมือทำต่อเนื่อง ไม่ทิ้งงาน

- มักหนีทรัพย์ราคาสูง เพราะขายยาก ขายเหนื่อย ทำงานหนักมาก ขายได้ก็เหลือน้อยแต่โอนนานข้ามภพ ข้ามปี เหลือส่วนแบ่งยังกะฉี่จั๊กจั่น

- การหาลูกค้าไม่ใช่นำเสนอหรือร่อน เพราะผู้ซื้อเคี่ยวยิ่งกว่าตังเม ทำให้ราคาเสีย สู้ประกาศหาลูกค้าใหม่ไม่ได้

- นายหน้าเก่าๆ ไม่ชอบง้อทรัพย์ เพราะทรัพย์มีสต๊อกเต็มมือ ลูกค้าเก่าๆก็ล้นแล้วค่ะ

- นายหน้าเก่าๆไม่ชอบแข่งกันขาย ใครขายก็ให้ เขารับปากค่ะ แต่ส่วนใหญ่ไม่ทำ อย่าตามงานเขานะคะ เขาเลือกที่จะทำ/ไม่ก็ได้เพราะไม่มีข้อตกลงผูกมัดกับเขา

ที่สำคัญ นายหน้าอาชีพ เขาใช้เงินลงทุน
ใช้แรง ใช้เวลา ใช้ประสบการณ์วิเคราะห์
ลูกค้าอย่างหนัก

ใครเห็นเป็นอื่นก็สุดแท้แต่นะคะ
พอดีส่วนตัวเป็นแบบนี้เลย

พอดีเจอเศรษฐีหมื่นล้านดูถูกดูแคลนมาหมาดๆ เหมือนเราวิ่งง้อของานเขา ทั้งๆที่ญาติเขามาแล้วหรือตื๊อเชิญเราไปคุยเอง โดยที่เราตั้งไปเพื่อปฏิเสธโดยมารยาท

รวยแค่ไหนก็ไม่เคยก้มหัวให้ค่ะ ไม่เคยก้มหัวให้เงิน ขอก้มหัวให้คนที่เห็นความเป็นคนและให้เกียรติผู้อื่นเป็นเท่านั้นค่ะ


#เป็นนายหน้าต้องอดทนแต่ก็เลือกที่จะทนได้ค่ะ
Cr.Kanchisa Ulhadej