🏠 ราคาประเมินบ้านพิจารณาจากอะไร ?

นอกจาก ราคาประเมินกรมธนารักษ์ และ ราคาตลาดแล้ว อีกปัจจัยที่ชี้จะว่าราคาบ้านจะสูงขึ้นหรือต่ำลง ก็คือ “ตัวบ้าน” นั่นแหละ เจ้าหน้าที่จะประเมินตั้งแต่

1. ลักษณะตัวบ้านว่าเป็นแบบไหน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว อาคารพาณิชย์ หรือคอนโด

2. ขนาดเนื้อที่ของที่ดินและพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้าน

3. อายุของตัวบ้านเอง

4. โครงสร้างของบ้านและวัสดุที่ใช้สร้างตัวบ้าน

5. สภาพของบ้าน ว่ายังมีสภาพพร้อมใช้งานหรือ มีส่วนที่ชำรุด ต้องปรับปรุงมั้ย
นอกจากปัจจัยที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ประเมิน ยังอาจดูไปถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของ หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในโฉนด ที่ขายพร้อมกับตัวบ้าน

มาดูตัวอย่างการประเมินราคาบ้านกันเลยค่ะ ว่าเจ้าหน้าที่ปรัะเมินจะดูจากอะไรบ้าง

- บริเวณพื้นที่จอดรถหรือทางเดินรอบๆ บ้าน ถ้ามีหลังคามุง เจ้าหน้าที่จะคิดราคาประเมินเพิ่มขึ้นให้ด้วย

- รั้วบ้านถ้าเป็นบ้านที่สร้างเดี่ยวๆ ไม่ได้แชร์รั้วบ้านกับบ้านหลังอื่น ก็จะคิดราคาประเมินเพิ่มขึ้นให้ด้วย แต่ถ้าเป็นรั้วบ้านในโครงการที่แชร์รั้วกับข้างบ้าน อันนี้ไม่ได้คิดให้นะคะ

- พื้นที่ต่อเติมครัว ก็จะคิดราคาประเมินเพิ่มขึ้นให้ด้วย

- ความสูงของพื้นไปถึงฝ้าเพดาน ถ้าเพดานสูงมากกว่าปกติทั่วไป เมื่อเทียบกันแบบหลังต่อหลัง แสดงว่าใช้วัสดุในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น เพื่อให้บ้านมีความโปร่ง ก็จะคิดราคาประเมินเพิ่มขึ้นให้ด้วย

- เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จะไม่คิดราคาประเมินเพิ่มให้นะคะ

ซึ่งการประเมินราคาบ้านจากแต่ละธนาคารหรือแต่ละบริษัท อาจประเมินได้ราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของบริษัทนั้นๆ ค่ะ