นายหน้าตัวจริงต้องรู้ Capital Gain คืออะไร ? ทำไมเราต้องแนะนำได้ และเข้าใจหลักการ
การลงทุนระยะสั้น เป็นการลงทุนคอนโดฯ ที่ให้ผลตอบแทนในระยะสั้นที่สุด นั่นก็คือ การขายใบจองคอนโดฯ เพื่อเก็งกำไร การลงทุนแบบนี้จะได้ผลตอบแทนภายในไม่กี่เดือน
การลงทุนระยะยาวแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
ซื้อเพื่อเก็งกำไร โดยการการซื้อคอนโดโครงการที่จะมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต โดยจะซื้อในตอนที่คอนโดฯ มีราคาถูกที่สุดอย่างช่วง Pre Sale และทำการปล่อยขายในอีก 2-3 ปีข้างหน้าในราคาที่แพงกว่า = ได้กำไร ซึ่งนี่แหละครับคือ Capital Gain ที่เรากำลังพูดถึงกัน
ปล่อยเช่าคอนโด เป็นการลงทุนคอนโดฯ ที่จะได้รับผลตอบแทนในระยะยาว นั่นก็คือการลงทุนปล่อยเช่าคอนโดฯ เป็นวิธีที่ช่วยสร้าง Passive Income ได้ ซึ่งส่วนนี้จะคำนวณจาก Rental Yield เป็นส่วนสำคัญ
ซึ่งการซื้อเพื่อเก็งกำไรจะสามารถอธิบายความหมายของ Capital Gain กับ คอนโด ได้ง่ายที่สุดครับ นั่นก็คือซื้อคอนโดในช่วงที่ถูก และขายในราคาที่แพง ยกตัวอย่างเช่น ซื้อคอนโดฯ ในช่วง Pre sale ในราคา 3,000,000 บาท และเก็บไว้ ผ่านไป 2 ปีทำเลเริ่มมีการพัฒนา จึงปล่อยขายต่อในราคา 4,000,000 บาท เท่ากับได้กำไรจากการขาย 1,000,000 บาท ซึ่งการลงทุนรูปแบบนี้นักลงทุนต้องอาศัยประสบการณ์ในการวิเคราะห์ทำเลว่าจะมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นในอนาคต
ยกตัวอย่างเช่น ซื้อคอนโดมาในราคา 4,000,0000 บาท ขายได้ 5,000,000 บาท = กำไร 1,000,000 และนำจำนวนี้มาคำนวณหา Capital Gain = (1,000,000 ÷ 4,000,000) x 100 = 25% เท่ากับการซื้อคอนโดครั้งนี้จะได้อัตราส่วนต่างกำไรอยู่ที่ 25% นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
คอนโด A มีกำไรจากการขายคอนโด 1,000,000 บาท และมีราคาที่ซื้อมา 4,000,000 บาท Capital Gain = (1,000,000 ÷ 4,000,000) x 100 = 25%
คอนโด B มีกำไรจากการขายคอนโด 500,000 บาท และมีราคาที่ซื้อมา 2,000,000 บาท Capital Gain = (500,000 ÷ 1,500,000) x 100 = 33.3 %
ถ้ามองจากจำนวนเงินจากกำไรจะเห็นว่า คอนโด A ได้จำนวนเงินมากที่สุดนั่นก็คือได้กำไร 1,000,000 บาทจริงไหมครับ Capital Gain จะอยู่ที่ 25% ส่วนกำไรจากคอนโด B นั้นได้กำไรเป็นจำนวนเม็ดเงินที่น้อยกว่าก็จริงคือ 500,000 บาท แต่ถ้าเทียบจาก Capital Gain ล่ะก็คอนโด B มีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะได้กำไรถึง 33.3%