ความรู้

ความรู้

แนวโน้มทิศทางอสังหาฯ ปี 2567

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 29 มกราคม 2567 18:10
ตลาดอสังหาฯ ปีที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้น
แต่ไม่หวือหวาอย่างที่คาดการณ์ไว้
เนื่องจากปัจจัยท้าทายหลายด้านที่ส่งผลบวกและลบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
อสังหาริมทรัพย์ในปี 2567/2024 ยังคงน่าซื้อน่าลงทุน อยู่หรือไม่?
สำหรับผู้ที่สนใจซื้ออสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัย หรือเพื่อการลงทุน ในการซื้อมีหลายปัจจัยที่ควรติดตามและประเมิน เพราะมีทั้งโอกาสและข้อจำกัดในการเลือกซื้อ ปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ
ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ
ปัจจัยเชิงบวกที่กระตุ้นให้เกิดการเลือกซื้อ ทั้งปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาอย่างรุดหน้า ปัจจัยจากนโยบายรัฐ ไปจนถึงความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น
แบ่งออกมาเป็น 4 ข้อหลัก
  • การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ปี 2566 เป็นปีที่มีการเปิดเดินรถไฟฟ้ามากถึง 3 สาย และเป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญที่วิ่งผ่านทำเลทางหลาย ๆ จุดของกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยทั้ง 3 สายยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายเดิม ทำให้การเดินทางคล่องตัวมากขึ้น และยังกระตุ้นตลาดอสังหาฯรอบโครงการไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
  • นโยบายชาวต่างชาติซื้อบ้านได้ ครม. (คณะรัฐมนตรี) เห็นชอบให้ชาวต่างชาติที่จะซื้อบ้านในประเทศไทยได้โดยมีเงื่อนไขว่า ชาวต่างชาติที่จะเข้า มาซื้อบ้านในไทยนั้นต้องลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และเป็นเจ้าของได้ไม่เกิน 1 ไร่ โดยจะต้องซื้อเพื่อเป็นการอยู่อาศัยเองเท่านั้น ถ้าหากว่านำไปใช้ในเหตุอื่นมีสิทธิที่จะถูกบังคับเพื่อขายคืนได้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยทางตรงและทางอ้อมต่อการลงทุน
  • การเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม ปี 2566 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 22 ล้านกว่าคน และช่วงโค้งสุดท้ายของปีเป็นช่วงเทศกาล ตั้งเป้าถึง 28 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปี 2565 เกือบเท่าตัว ซึ่งแน่นอนว่าช่วยเศรษฐกิจในประเทศและการจ้างงานในประเทศได้เป็นอย่างดี เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นตัวขับ เคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย
  • นโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ไม่สูงมากนัก ธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลก มีนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อและเพื่อรักษาค่าเงิน ของประเทศตนเองไม่ให้อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแน่นอนว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะมีผลเชิงลบต่อตลาดอสังหาฯ เพราะลดทอนกำลังซื้อของผู้ซื้อและนักลงทุน (เนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนในการกู้ซื้อบ้านสูงมากยิ่งขึ้น)
แต่สำหรับธนาคารแห่งประเทศไทย
มีนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยที่ไม่ได้รุนแรงเหมือนกับหลายประเทศเนื่องด้วย บริบทเศรษฐกิจของไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ทำให้แบงค์ชาติของไทยมีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่าหลายประเทศ ดังนั้นการซื้ออสังหาฯ ในไทยจึงไม่น่าจะโดนผลกระทบที่รุนแรงมากนัก หากเทียบกับตลาดอสังหาฯ ในต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสดีของผู้ซื้อ
ปัจจัยลบที่ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ
  • ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงทั่วโลก ราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น สงครามระหว่างรัสเซียกับ ยูเครน การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อหยุดเงินเฟ้อ ทำให้หลายสำนักทางเศรษฐกิจคาดการณ์ตรงกันว่า เศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐอเมริกา เกิดภาวะถดถอยค่อนข้างสูง (Economic Recession) แน่นอนว่าส่งผลมาถึงประเทศในเอเชียด้วย ปัจจัยข้อนี้จึงส่งผลให้ผู้ซื้อบางท่านเกิดความกังวลและชะลอการตัดสินใจซื้อทรัพย์สินขนาดใหญ่ไปก่อน
  • เงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น ถึงแม้นโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยเร็ว และรุนแรงจึงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในวงจำกัด สถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานไปจนถึงปลายปี 2567 สิ่งนี้จะกดดันให้ FED ต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งจะบีบให้แบงค์ชาติของประเทศอื่นๆ (รวมถึงไทย) อาจจะมีความจำเป็นที่ต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินเอาไว้ ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้ซื้ออสังหาฯ ในปี 2567 ได้
  • การแพร่ระบาดของเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ ถึงแม้การแพร่ระบาดสถานการณ์ปัจจุบันมีความผ่อนคลายมากขึ้น หลายๆ คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ มีการเปิดประเทศและยกเลิกนโยบายเว้นระยะห่างเกือบหมดแล้ว แต่ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดสายพันธุ์ใหม่ ๆ อาจจะกลับมาได้เสมอ ซึ่งหากมีโรคระบาดในสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นก็อาจจะกลายเป็นปัจจัยเชิงลบ ที่ฉุดรั้งต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ได้เช่นกัน
สรุปแนวโน้มตลาดอสังหาฯ

จากปัจจัยเชิงบวกและปัจจัยเชิงลบทั้งหมดนี้ ปี 2567 เป็นอีกหนึงปีที่มีความท้าทาย
ต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย แต่ก็มีโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้อยู่อาศัย
และนักลงทุนที่กำลังเพ่งเล็งที่จะซื้ออสังหาฯ ในปี 2567 นี้

หากมองในระยะยาว ราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์ ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสูง

ถ้าเลือกซื้อทรัพย์กับโครงการคุณภาพ ในทำเลที่ดี ก็แทบจะไม่มีโอกาสขาดทุนในระยะยาว
-Nutthida Kim
#ความรู้อสังหาฯ #อสังหาริมทรัพย์
#อสังหากับคิม
#nutthidakim
ข้อมูลอ้างอิงโดย
lh.co.th
DDproperty
property-flow
relic.co.th
mgronline
Mots.go.th

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม