เงินสดขาดมือ แต่มีอสังหาฯปลอดภาระ "ขายฝาก" ช่วยได้จริงไหม มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ต้องมาดู
1. การขายฝากส่วนมากนั้นผู้ให้กู้จะให้วงเงินสูงกว่าการกู้รูปแบบอื่น ซึ่งผู้ให้กู้บางรายอาจให้มากถึง 60% ของราคาประเมินได้เลยทีเดียว
2. การขายฝากมีระยะเวลาในการไถ่ถอนที่ยืดหยุ่น โดยผู้ทำการขายฝากสามารถยืดระยะเวลาในการไถ่ถอนได้เรื่อยๆ แต่ต้องไม่เกินที่กำหนดไว้ สมมติถ้าตกลงกับเจ้าหนี้ไว้ว่าจะมาไถ่ทรัพย์คืนภายใน 1 ปี หากถึงเวลาแล้วยังไม่พร้อม ก็สามารถยืดเวลาออกไปอีกกี่ครั้งก็ได้ แต่ต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
3. ลูกหนี้จะไม่ถูกเอาเปรียบจากการคิดดอกเบี้ยโหดๆ แน่นอน เพราะกฎหมายกำหนดให้เจ้าหนี้จะไม่สามารถคิดดอกเบี้ยจากการขายฝากได้เกิน 15% ต่อปีหรือ 1.25% ต่อเดือนเท่านั้น
1. ผู้ขายจะเสียกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทันทีที่ตกลงทำสัญญาขายฝาก เหมือนกับเราขายของให้ลูกค้าไปแล้ว ผู้รับซื้อจึงใช้สอยทรัพย์ได้เพราะมีสิทธิในทรัพย์นั้นอย่างสมบูรณ์ครับ แม้จะมีเงื่อนไขว่าสามารถซื้อคืนได้ก็ตาม
2. ถ้าเราไม่นำเงินไปจ่ายเพื่อไถ่ทรัพย์คืนเมื่อถึงกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา เจ้าหนี้จะได้สิทธิ์ขาดในทรัพย์สินนั้นทันทีโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือฟ้องบังคับใดๆ ทั้งสิ้น
3. มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะผู้ขายฝากต้องเสียทั้งค่าธรรมเนียมโอน 2% ของราคาประเมิน ภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ นั่นแปลว่ายิ่งทรัพย์สินมีราคาประเมินสูงก็จะต้องเสียเงินเยอะตามไปด้วย... กว่าจะได้เงินก็โดนซะอ่วมเลย