หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในระดับที่ใหญ่ขึ้น สิ่งใดที่ควรพัฒนาให้มีในตนเอง?
วันนี้อยากแบ่งปัน สิ่งที่เอเจนอสังหาฯ น่าจะให้เวลาสนใจ เพื่อต่อยอดในอนาคต หากต้องการประสบความสำเร็จ ในระดับที่ใหญ่ขึ้น
แต่ถ้าเกมส์ Solo entrepreneur ไม่ใช่เกมส์สุดท้ายของคุณ ลองอ่านแล้วเก็บสิ่งที่ชอบไปค่ะ
ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งเป้าหมายของคุณ ที่ต้องวางแผนให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และนับก้าวลงมือทำไปเรื่อยๆจนเห็นผลลัพธ์ปรากฏ
เป้าหมาย ไม่ใช่ปลายทาง แต่มันคือสิ่งที่คุณเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และคุณเองออกแบบประสบการณ์รายวัน ให้ขัดเกลา ก่อร่างสร้างตัวเองให้สอดคล้องกับสิ่งที่คุณปราถนา และอาชีพ คือส่วนหนึ่งของเครื่องมือหลายชนิดที่มีในชีวิต
ดังนั้น ทบทวนอีกครั้งค่ะ ว่าเครื่องมือทั้งหลายในชีวิต หรือ Tool box ที่มีนั้น จะสอดคล้อง และขัดเกลาคุณ "เป็น" สิ่งที่ปราถนาได้ย่างไร
เพราะชีวิตรายวัน เราอาจเผลอถูกกลืนกินไปกับคลื่น หรือกระแส การทำตามกันมา ในกลุ่มสังคมที่เราอยู่ เช่น คนรอบตัวในออฟฟิศ หรือกลุ่มเอเจนที่เราไปทำงานด้วย อาจมีพฤติกรรมการสนทนา เจรจาต่อรองที่ใช้การไม่ได้
จนเริ่มพ่นพิษความเชื่อผิดๆ ในกลุ่มว่า "เราเป็นเอเจน เราก็ต้องยอมๆเขาไป จะได้จบๆ แค่รับเงินค่าคอมฯได้ก็พอ"
ซึ่งความเชื่อที่ผิดนี้ ก็อาจไปได้สุดอีกด้าน ที่เป็นความ แรง ความก้าวร้าว "เพราะกลุ่มเรา เป็นสไตล์คนแรง"ที่ไม่ก่อให้กิดผลดีได้อีกเช่นกัน
ซึ่งความคิดนี้ ทำให้เกิดการ "ตัวเล็กตัวน้อย" ไม่ให้พลัง รู้สึกไม่คู่ควร ทำให้เสียกำลังใจ เสียความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา เพื่อรับรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งตัวคุณเอง ก็ต้องรับผิดชอบในการ Pause และตั้งสติว่า
เรื่องนี้ มันคือความจริงหรือเปล่า?
ทำไมเราต้องใช้วิธี ยอม บ่อยนัก?
ทุกการ ยอม เราได้อะไรกลับมาเท่าไหร่?
เราเสียอะไรไปบ้าง?
นั่นคือสิ่งที่เราต้องการเป็น ในอาชีพนี้หรือเปล่า?
และสุดท้าย ความเชื่อเหล่านี้ สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตเราไหม? และถ้าไม่ใช่ เราจะแก้ไข จัดการ อย่างไร?
เพราะ"ปัญหา ทำให้ฉันเติบโต"
และนั่น คือเป็นแสงดาวนำทาง ของนักพัฒนาที่จะพาคุณไปหาโจทก์แห่งความสนใจในชีวิต และแก้ปัญหาในระดับที่ใหญ่ขึ้น (Scalable)
สิ่งที่สงสัย สิ่งที่ไม่ชอบ คุณจะมี Solution ในหัวอยู่แล้วล่ะ แต่มันจะตรวจสอบสมมติฐานได้อย่างไรล่ะ ถ้าไม่ได้ลงมือทำ
พูดแบบนี้ แล้วปิดไม่ได้ ค้นในตำรา แนะนำมาว่าอย่างนี้ มีคนเคยใช้แล้วประสบความสำเร็จ ลองเอามาหัดพูดกับตัวเองในกระจกให้เป็นภาษาของตัวเองสิ รู้สึกอย่างไร? เอาไปทดลองพูดกับ Buddy สิ ฟังแล้วซื้อไหม? ถ้าไม่ ก็ปรับจูนใหม่ ก่อนนำไปใช้กับลูกค้าตัวจริง
คิด มีคำตอบ ทดลอง ทดสอบ จดบันทึก ปรับปรุง ทดสอบใหม่ จนใช้การได้ และ คอยสังเกตอยู่เสมอ ว่าสิ่งที่เราเคยมั่นใจว่าเป็น Solution ที่เวิร์ค มันยังใช้การได้อยู่ไหม?
นักปฏิบัติที่ฉลาด จะไม่ได้ลงมือทำมั่วๆ และความกล้าหาญ ในการลงมือทำ ก็ต้องผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้น ก็จะกลายเป็น คนโง่ ที่ขยัน คนหนึ่ง ที่เปลืองพลังงานไปกับความผิดซ้ำซากที่ไม่จำเป็น
ในอดีต การหาเงินทุนมาต่อยอดธุรกิจในฝัน อาจเป็นเรื่องยาก แต่เดี๋ยวนี้มีแหล่งทุนให้เข้าถึงอย่างมากมาย Go Fund Me, VC หรือ Angel Investors ที่เป็นคนใกล้ตัว ที่มีเงิน และอยากลงทุนกับคนที่พร้อม
ซึ่งความพร้อมของคุณ ต้องไม่ใช่พร้อมในงานอสังหาฯอย่างเดียว แต่ต้องมีทั้งความเป็นผู้นำ ทักษะการเงิน บัญชี ภาษี การตลาด การวางแผน การสื่อสาร การบันทึก เทคโนโลยี ที่หลายอย่างอาจไม่ใช่สิ่งที่รู้ แต่ต้อง resourceful มากพอที่จะรู้ว่า เรื่องนี้ต้องไปหาใคร
ถ้า Factor เรื่องเงิน ยังมาไม่ถึง ในระหว่างนี้คุณสร้าง และเรียนรู้เรื่องอื่นที่จำเป็นกับเป้าหมายชีวิตของคุณ ไปมากน้อยเพียงใดแล้ว?
หลายคนอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ มีระบบ มีทีม Leverage รายได้จากงานเอเจน แต่ปัจจุบัน รูปแบบการแข่งขันเปลี่ยนไป แค่เป็นบริษัทที่ Lead generation ให้เอเจนไปวิ่งปิด ไม่เพียงพอแล้ว คุณก็ต้องปรับเปลี่ยนหน้าตาของสิ่งที่ปราถนา ให้สามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นได้ในโลกแห่งความจริงอีกด้วย
ทุกครั้งที่คุณคิดใหญ่ สมองจะถูกกระตุ้น และรั้งให้คุณกลัว พร้อมดึงภาพประสบการณ์ในอดีตที่เจ็บปวด ล้มเหลว เพื่อคงให้คุณอยู่ในพื้นที่เดิม ที่ปลอดภัย ...ไม่ตาย
แต่คนที่อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร ปลอดภัยเสมอ คือซอมบี้ ที่ตายภายในไปแล้วเรียบร้อย
ความเชือมั่นในตนเอง และสติ จะทำให้เกิดความเข้าใจ และอยู่เหนือปฏิกิริยาในกาย ในจิตใจของตนได้ กลัวแค่ไหน ก็จะเดินต่อไปได้ ที่เรียกว่า "เอาตัวเองอยู่" ไม่เครียด หรือกังวล จนลงมือทำต่อไม่ได้
เชื่อมั่นในพลังความดี คิดดี พูดดี ทำดี ของตนเอง ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยว เป็นแสงสว่างนำทาง แม้ในวันที่มืดมิดที่สุด
ดูเป็นเรื่องเรียบง่าย ไม่มีะไรหวือหวา แต่เส้นทางความสำเร็จก็เป็นเช่นนี้ ใครที่อยู่ได้กับความเรียบง่าย ที่น่าเบื่อ แต่นำไปสู่ผลลัพธ์ได้นานกว่า คนนั้นก็ชนะ