เจาะลึกปัญหาและโอกาสในธุรกิจโรงแรมพัทยาหลังโควิด..เมื่อความมั่นคงด้านการเงินและนักท่องเที่ยวกลายเป็นปัจจัยชี้ชะตา🤔
อย่างแรกเลยคือ ดีขึ้นจากโควิดพอสมควรบางโรงอาจจะดีขึ้นกว่าโควิด แต่หลายโรงก็ยังมองว่า
เหมือนจะดี แต่ก็ยังไม่ได้ดีเท่าสมัยก่อนโควิด
ใครที่รอดมาจนถึงตอนนี้ จากที่เคยประกาศขายช่วงโควิด ตอนนี้เปลี่ยนใจไม่ขายแล้วซ้ำยังปรับราคาสูงขึ้น เพราะเจ้าของมองว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น
แต่ก็มีเจ้าของรายใหม่บางคน ที่มองเห็นแล้วว่า โรคระบาดส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างมาก
จึงเปลี่ยนใจไม่คิดดำเนินกิจการต่อขายไปแล้วเอาเงินก้อนไปทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า
ซึ่งจะเห็นโรงแรมหลายหลัง ที่ตอนนี้ก็ยังไม่เปิดกิจการ และขายทิ้งในสภาพที่ยังใหม่มาก
ส่วนคนที่ล้มจากโควิดก็มีหลายเจ้าที่ยังไม่ฟื้น เพราะช่วงโควิดเรียกว่าหมดเนื้อหมดตัว
ไม่มีเงินสำรองในการรันธุรกิจต่อ จะซ่อมหรือปรับปรุงอะไรตามสถานการณ์ ล้วนเป็นสิ่งที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ซ้ำร้ายสถาบันการเงินบ้านเราได้ปรับมุมมองเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรม ว่าเป็นธุรกิจที่ Sensitive ต่อภัยพิบัติและโรคระบาดทำให้ไม่ปล่อยวงเงินสินเชื่อออกมา หรือเงื่อนไขการปล่อยก็ตึงมากๆจนทำให้ผู้ประกอบการเดินต่อไปไม่ได้
กลุ่มลูกค้าตลาดในปัจจุบัน กลุ่มหลักยังคงเป็นชาวรัสเซีย และบางโซนในพัทยา
กลุ่มลูกค้าอินเดีย ยังคงเป็นลูกค้าหลักเหนียวแน่น
เกาหลีและญี่ปุ่นมาพัทยาเพื่อมาตีกอล์ฟ มากกว่าการมาสัมผัสบรรยากาศทะเล
ส่วน นทท โซนเอเชีย เช่น เวียดนาม อินโด มาเลเซียก็ยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
พออ่านถึงนี่แล้วก็จะมีคนสงสัยว่า เอ๊ะ...แล้วคนจีนล่ะ? ใช่ครับ วันนี้ผมเองก็ประหลาดใจ แทบไม่เห็นคนจีนเลย
จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนพัทยา มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด และยังไม่กลับมาเหมือนช่วงก่อนการระบาด
เศรษฐกิจจีนเองก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่เงินหยวนมีทรงอ่อนค่า (เงินไทยก็เช่นกัน)
และพฤติกรรมการเที่ยวของจีนเริ่มเปลี่ยนไป จากเป็นกรุ๊ปทัวร์กลุ่มใหญ่เริ่มแตกย่อยเป็นกลุ่มเล็กๆ และมองหาที่ใหม่ๆในการท่องเที่ยว
และสิ่งที่ซ้ำให้ความเชื่อมั่นของ นนท จีนลดลงอย่างมาก คือดาราจีน (ซิงซิง) ที่ถูกลักพาตัวไปทำให้ นนท จีนกังวลเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก จึงทำให้ นนท จีนหันไปเที่ยวประเทศอื่นที่มีความปลอดภัยกว่า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือตะวันออกกลาง
สิ่งที่จะเป็นแรงกระตุ้นให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของพัทยา และธุรกิจโรงแรมดีขึ้นเทียบเท่ากับสมัยก่อนโรคระบาด
คงต้องหวังให้ทางรัฐบาลสร้างความเชื่อมั่น และด้านความปลอดภัยรวมถึงปรับกลยุทธ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมา (จะหวังได้มั้ยน้า)
ร้านอาหารและร้านค้าหลายแห่งที่เคยเปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนต้องปิดตัวลงประมาณ 30% บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ
สาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงในย่านห้วยขวาง
คือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจีนมักเลือกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ
เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา และเกาะล้าน มากกว่าที่จะใช้เวลาในกรุงเทพฯ
ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเพียงทางผ่าน ไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลักเหมือนในอดีต
แต่ก็ยังมีศาลพระพิฆเนศ ตรงสี่แยกห้วยขวางที่ยังทำให้มี นนท จีนบางส่วนมาเยือน
การลดลงของ นทท จีนในย่านห้วยขวางส่งผลกระทบต่อธุรกิจในพื้นที่อย่างชัดเจน ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดตัวลง หรือต้องปรับตัวเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในย่านนี้