แชร์ประสบการณ์

แชร์ประสบการณ์

เข้าเงินง่าย ไถ่ถอนยาก: กับดักลิสซิ่งที่นายหน้าต้องรู้ทัน

matching
วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 7 เมษายน 2568 10:35
อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มาหลายปี โดยเฉพาะงานสายขายฝาก ปกติส่งงานให้ทุนโดยตรงไม่ผ่านคนกลางช่วงนี้หลายคนอาจรู้สึกแปลกใจ ทำไมทั้งนายหน้า ทุนเก่า หรือแม้แต่ทุนใหม่ถึงไม่มีงานให้ทำ
เหตุผลไม่ใช่เพราะทรัพย์หมดหรือคนไม่มีเงินลงทุน แต่เป็นเพราะ “บริษัทลิสซิ่ง” ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเต็มทุกหัวถนน ลูกค้าเลยไม่เดินหานายหน้าอีกต่อไป
เดินตรงเข้าลิสซิ่งเลยงานเลยถูกตัดตอนนายหน้าหายไปจากระบบแบบถูกทำหมันทั้งวงการ
แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้โดยเฉพาะลูกค้า
คือ ตอนขอกู้เงินไม่ยากเอกสารพร้อม โฉนดครบ รับเงินได้ทันทีแต่ตอนไถ่ถอนต่างหากที่น่ากลัว ถ้าลูกค้ามีเงินสดมาไถ่ถอนเองก็ไม่มีปัญหาไปจ่ายเงินที่บริษัทฯ รอ 5-14 วัน รับโฉนดพร้อมชุดโอนลอย ไปโอนเองที่กรมที่ดิน
แต่ถ้าลูกค้าไม่มีเงินสดนั่นคือจุดเปลี่ยน เพราะคำถามคือ ใครจะจ่ายเพื่อปิดบัญชี?
คำตอบคือ ต้องหาทุนใหม่มารับช่วง นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "เปลี่ยนมือ" เป็นธรรมเนียมในวงการมานาน ทุนใหม่ส่งแคชเชียร์เช็คให้ทุนเก่า ทุนเก่าอุ้มโฉนดไปกรมที่ดิน จัดการเปลี่ยนนิติกรรมให้เรียบร้อย วิน-วิน ทุกฝ่าย
แต่ปัญหาเริ่มขึ้น
เมื่อเจอบริษัทลิสซิ่งบางแห่ง โดยเฉพาะลิสซิ่งรายใหญ่บางเจ้า กำหนดให้ลูกค้า “ต้องจ่ายเงินสดก่อน” แล้วรอรับโฉนดและชุดโอนลอย ภายหลัง 7-14 วัน ลูกค้าต้องไปโอนเอง ไม่เอาโฉนดยื่นหมูยื่นแมวกัน ที่กรมที่ดินเหมือนทุนทั่วไป
ใครจะกล้าจ่าย?
ทุนใหม่ไม่จ่ายแน่ เพราะไม่มีหลักประกันในมือ จ่ายเงินไปก่อนโดยที่ยังไม่ได้รับโฉนดเสี่ยงเกินไป

สุดท้าย คนซวยคือเจ้าของทรัพย์ ตอนกู้ไม่ถามขั้นตอนการไถ่ถอนมารู้ตัวอีกที
คือไม่มีใครรับช่วงติดกับดักลิสซิ่งเต็มๆ
ทางแก้เดียว คือ
ต้องหาทุนบุคคลที่ยอม “ตัดโฉนด” จากบริษัทลิสซิ่งให้ก่อน คิดค่าใช้จ่าย 5-10% ของยอดไถ่ถอน พอได้โฉนดมาถึงจะหาทุนใหม่มารับเปลี่ยนมือซึ่งก็ต้องจ่ายค่าปากถุงอีก 5-8%

รวมๆ แล้ว ลูกค้าเสียค่าดำเนินการเพิ่มเกือบ 10-15% โดยไม่จำเป็น ทั้งหมดนี้เกิดจากระบบที่ “ไม่วินทุกฝ่าย” และขาดความเข้าใจเรื่องการไถ่ถอน
อยากฝากถึงเพื่อนๆ นายหน้าถ้าจะรับงานจำนองหรือขายฝากให้ลูกค้า ควรถามขั้นตอนการไถ่ถอนตั้งแต่แรก
โดยเฉพาะถ้าทุน หรือบริษัทลิสซิ่งนั้น ไม่เอาโฉนดมายื่นหมูยื่นแมวที่กรมที่ดินถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงทันที

เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะลิสซิ่งในเมืองที่ดูใหญ่โต แต่จริงๆ แล้ว กติกาแปลกประหลาด ไม่นึกถึงคนกลาง ไม่มองเห็นลูกค้า เหมือนซาตานในร่างอาคารพาณิชย์

ธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ถ้าไม่วินทุกฝ่าย สุดท้ายก็อยู่ไม่ยืดและที่แย่กว่านั้นคือคนซวยคือผู้บริโภคที่ไม่มีใครเตือน
Credit by.Saksith Chaychuwong

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม