ความรู้

ความรู้

5 เทคนิคเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำรับหน้าร้อน

วันที่สร้างประกาศ เวลาสร้าง 18 เมษายน 2568 18:14
หน้าร้อนแบบนี้ เปิดแอร์ยังไงให้เย็นฉ่ำ ไม่เปลืองไฟ แถมไม่ต้องรอนาน หลายคนอาจคิดว่าเปิดแอร์แรงสุดไปเลยคือคำตอบ แต่จริง ๆ มีวิธีที่ดีกว่านั้น! มาดู 5 เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยให้แอร์เย็นไว แถมประหยัดไฟไปพร้อมกัน
1. ล้างแอร์เป็นประจำ
การล้างแอร์เป็นประจำช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะถ้าฟิลเตอร์สะสมฝุ่นมาก จะทำให้ลมไหลเวียนไม่ดี และแอร์ก็จะเป่าลมออกมาเบาและไม่เย็น ส่วนคอยล์เย็นที่สกปรกก็จะไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี นอกจากนี้ หากท่อน้ำทิ้งตัน ก็อาจทำให้มีความชื้นสะสม จนน้ำหยดจากแอร์และมีกลิ่นอับได้
ดังนั้น ควรล้างฟิลเตอร์ทุก 2-4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถทำได้เองง่าย ๆ ส่วนการล้างแอร์ทั้งระบบ ควรทำทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เมื่อทำการล้างแอร์แล้ว ฝุ่นที่ขวางการไหลของลมจะถูกกำจัดออก แอร์ก็จะกลับมาเป่าลมแรงขึ้น ทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มภาระให้กับเครื่อง แถมยังช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาดขึ้นด้วย
2. ปิดช่องให้มิดป้องกันแอร์ออก
หากคุณเปิดแอร์แรงสุดเพื่อหวังให้อากาศเย็นฉ่ำ แต่ก็ยังรู้สึกร้อนอยู่ดี ให้ลองเช็กตามขอบประตูหน้าต่างดูว่า มีช่องเปิดหรือรอยรั่วเล็ก ๆ เช่น ประตูหน้าต่างปิดไม่สนิท หรือระหว่างประตูกับพื้นที่ช่องว่างหรือไม่?
ถ้ามี จะทำให้แอร์ไหลออกจากห้อง ขณะเดียวกัน อากาศร้อนจากภายนอกก็จะเข้ามาแทนที่ ทำให้อุณหภูมิในห้องไม่เย็นฉ่ำ แม้จะเปิดแอร์แรงแค่ไหนก็ตาม แถมแอร์ยังต้องทำงานหนัก ซึ่งก็จะเปลืองไฟและทำให้แอร์พังเร็วอีกด้วย
3. เปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น
หลายคนคงเคยเจอปัญหาแอร์เย็นไม่ทั่วห้อง โดยเฉพาะในห้องที่กว้าง วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ความเย็นกระจายทั่วถึงมากขึ้นก็คือการใช้พัดลมช่วย เพียงเปิดพัดลมให้ลมพัดไปตามทิศทางของแอร์ ก็จะทำให้รู้สึกเย็นขึ้นโดยไม่ต้องเร่งแอร์ให้ทำงานหนัก ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟไปในตัว
นอกจากนี้ การหันพัดลมให้ถูกทิศทางก็ช่วยให้ความเย็นกระจายตัวได้ดีขึ้นอีกด้วย หากใช้พัดลมตั้งพื้น ควรหันไปทางที่แอร์ปล่อยลมออกมา เพื่อให้ลมเย็นกระจายตัวดีขึ้น
ส่วนพัดลมเพดานควรตั้งให้หมุนทวนเข็มนาฬิกาในช่วงหน้าร้อน เพราะจะช่วยดึงความเย็นลงมาสู่ด้านล่าง ไม่ให้ลอยอยู่เฉพาะด้านบนของห้อง ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น แต่ยังช่วยให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น ลดความอับชื้น และทำให้บรรยากาศในห้องสบายขึ้นอีกด้วย
4. เลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าระหว่างเปิดแอร์
เวลาที่เปิดแอร์ หากมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น เตารีด ไดร์เป่าผม หรือเตาไฟฟ้า ความร้อนจากอุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น ส่งผลให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาความเย็น
ดังนั้นทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในระหว่างที่เปิดแอร์ จะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้นและคงความเย็นได้นานขึ้น โดยที่แอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟไปในตัว ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ เพราะเครื่องไม่ต้องเร่งทำงานตลอดเวลา ระบบทำความเย็นก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เลือกโหมดแอร์ให้เหมาะสม
การเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำไม่ใช่แค่ปรับอุณหภูมิให้ต่ำสุด แต่ต้องเลือกโหมดให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและการใช้งานด้วย เริ่มจากโหมด Cool เป็นโหมดมาตรฐานที่ให้ความเย็นเร็วที่สุด เหมาะสำหรับวันที่อากาศร้อนจัด ควรตั้งอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 24-26°C เพื่อให้ห้องเย็นสบาย และช่วยประหยัดพลังงาน ที่สำคัญไม่ควรตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไปเพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
ถ้าต้องการให้ห้องเย็นแบบทั่วถึง แนะนำให้ใช้ โหมด Fan ควบคู่ไปด้วย เพราะโหมดนี้ช่วยกระจายความเย็นให้ทั่วห้อง โดยไม่เพิ่มภาระให้คอมเพรสเซอร์ และยังลดความอับชื้นภายในห้องอีกด้วย
อีกโหมดที่ช่วยให้เย็นเร็วคือ โหมด Powerful หรือ Turbo ซึ่งเร่งความแรงของแอร์ให้สูงสุด เหมาะสำหรับห้องที่ร้อนจัดและต้องการทำให้เย็นเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้เฉพาะช่วงแรก แล้วเปลี่ยนกลับไปเป็นโหมดปกติเมื่อห้องเย็นลง เพื่อประหยัดพลังงาน
สำหรับตอนกลางคืนหรือเวลานอน แนะนำให้ใช้ โหมด Sleep หรือ Eco ซึ่งจะปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นอัตโนมัติประมาณ 1°C เพื่อไม่ให้รู้สึกหนาวเกินไป
สุดท้าย อย่าลืมปรับทิศทางลมให้เหมาะสม ถ้าเป็น โหมด Auto แอร์จะปรับทิศทางลมเองตามอุณหภูมิห้อง แต่ถ้าต้องการให้เย็นเร็ว ควรตั้งให้ลมพัดลงด้านล่างในช่วงแรก จากนั้นปรับให้กระจายทั่วห้อง จะช่วยให้รู้สึกเย็นฉ่ำแบบไม่ต้องเร่งอุณหภูมิให้ต่ำสุด
แม้จะไม่ใช่หน้าร้อน อากาศประเทศไทยก็ร้อนจัดเกือบทั้งปีจนบางทีแอร์ก็เอาไม่อยู่ แต่ถ้าเปิดแอร์ให้เหมาะสม พร้อมดูแลรักษาให้ดี ตามที่เราได้ทำเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้มาแชร์ รับรองว่าต่อให้ร้อนแค่ไหน ห้องของคุณจะเย็นฉ่ำอย่างแน่นอน

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ดูหัวข้ออื่นเพิ่มเติม