นิทานอสังหา EP.7 (2/4) : ศรัทธาที่แตกสลาย...เมื่อไอดอลในทีมกลายเป็นคนแปลกหน้า
เขาเรียนไม่จบ แต่ไม่ได้ขี้เกียจเขาพูดเก่ง ยิ้มเก่ง ใจดีเกินไปจนบางทีเหมือนอ่อนไหวต่อความฝันและนั่นคือเหตุผลที่เขาตกหลุมรักพี่นนท์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง Live ใน TikTok
พี่นนท์ตอบกลับมาในเย็นวันนั้น
“มาเลยน้อง พี่ก็เริ่มจากไม่มีเหมือนกัน” ไม่ถึง 5 นาที เบนซ์ถูกดึงเข้ากลุ่ม “ทีมพี่นนท์”
ที่มีเอเจนท์ทั้งมือใหม่ มือกลาง มือโปร แต่ละคนทักทาย ยินดีต้อนรับมีรูปรีวิว ปิดดีล ลูกค้ายืนยิ้ม ถือกุญแจอยู่หน้าบ้านเบนซ์รู้สึกเหมือนได้เข้าโรงเรียนที่ไม่มีตารางสอนแต่มีความหวังเป็นห้องเรียนใหญ่
เบนซ์เริ่มต้นจากงานเล็กที่สุดในทีม รับหน้าที่ไปถ่ายรูปทรัพย์แทนพี่ไปดูบ้าน พูดกับนิติ คุยกับคนเฝ้าโครงการ จดชื่อ จดเลขบ้านถ่ายแปลน วัดพื้นที่ขอข้อมูล Update กับเจ้าของแล้วส่งทุกอย่างให้พี่นนท์
ทุกครั้งที่เขากด “ส่ง”เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ “สร้างบางอย่าง”ถึงแม้ชื่อเขาจะไม่ได้อยู่บนโพสต์ เขาก็ยังยิ้ม…เพราะเขารู้ว่า
ไม่มีคำว่าหยุด
ไม่มีคำว่าเหนื่อย
ไม่มีคำว่าขอส่วนแบ่งเพิ่ม
เบนซ์เคยคิดว่า ถ้าไม่มีเขาพี่นนท์อาจไม่ได้ทรัพย์พวกนี้แต่ในทางกลับกัน…เขาก็ไม่มีทางปิดเองได้เพราะลูกค้าระดับใหญ่ขนาดนั้นเขายังไม่มีในมือ
แล้วบ้านหลังนั้น...ก็มาถึง บ้าน 2 ชั้น ริมมุม ย่านรามอินทราเจ้าของเป็นญาติของเพื่อนแม่เบนซ์รู้ว่าทรัพย์นี้มีศักยภาพราคาต่ำกว่าตลาด เพราะเจ้าของอยากขายเร็วบ้านดูแลดี, หน้ากว้าง, เพดานสูงสวนติดมุมโครงการ
เขารีบถ่ายรูปเขียนคำอธิบายขอแปลน ขอสำเนาโฉนด (ที่ปิดชื่อไว้เรียบร้อย) และส่งให้พี่นนท์ในทันที
บ้านหลังเดียวกัน ภาพเดียวกับที่เขาถ่ายCaption ที่คล้ายกับบรรทัดแรกที่เขาเขียนในโน้ตแต่...ไม่มีชื่อเขาไม่มีคำว่า “ทีม”ไม่มีแม้แต่ประโยคว่า “ได้รับจากน้องในทีม”
“ได้รับมอบหมายโดยตรงจากเจ้าของ”
คำตอบที่ได้ คือ…
“พี่มีสิทธิ์จากเจ้าของโดยตรงนะเบนซ์ อาจจะเป็นหลังเดียวกันก็ได้”
หลังจากคืนนั้น เบนซ์นอนไม่หลับไม่ใช่เพราะโมโหไม่ใช่เพราะอยากเอาคืนแต่เพราะเขา “ไม่แน่ใจ”
ใช่…มันเป็นบ้านที่เขาได้มา
แต่คำพูดของพี่นนท์ยังวนในหัวเขาไม่หยุด
“อาจจะเป็นหลังเดียวกันก็ได้ พี่ได้มาจากเจ้าของโดยตรง”
เจ้าของยังจำเขาได้ผู้หญิงวัยกลางคน หน้าตาใจดีเดินออกมาทักเบนซ์ด้วยรอยยิ้ม
“ขอโทษนะครับพี่ ผมรบกวนถามตรง ๆ ได้มั้ยครับ…”
เจ้าของพยักหน้าเขาถามช้า ๆ ชัด ๆ
“พี่ให้สิทธิ์ใครขายบ้านอีกหรือเปล่าครับ...นอกจากผม?”
เธอเงียบอยู่ครู่หนึ่งเหมือนพยายามนึกก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่เลยนะ…พี่ให้แค่ผมคนเดียว พี่ยังไม่อยากโพสต์ขายที่ไหนด้วยซ้ำ”
“แล้วรู้จักชื่อ ‘นนท์’ มั้ยครับ?”
เจ้าของทำหน้าสงสัย
“ใครนะ?...ไม่คุ้นเลย”
เบนซ์ยิ้มยิ้มแบบที่แววตามันไม่ได้ยิ้มด้วยก่อนจะบอกเบา ๆ ว่า
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับพี่”
เขากลับมานั่งมองโพสต์ของพี่นนท์อีกครั้ง ตอนนี้มันไม่ใช่แค่ความเจ็บมันคือความเสียใจที่ลึกกว่าเดิมเพราะตอนแรก เขายังเชื่อว่า
“อาจจะมีความจริงอีกด้านที่เขาไม่รู้”
แต่วันนี้เขาแน่ใจแล้วว่าความจริงอีกด้าน…ไม่มีมันมีแค่ความเงียบที่พี่นนท์เลือกจะใช้…แทนคำขอโทษ
เขาเดินอยู่แบบนั้นเกือบชั่วโมง ก่อนจะนั่งลงใต้ต้นไม้ข้างเซเว่นล้วงกระเป๋าเจอธนบัตรยับ ๆ ร้อยเดียว ซื้อน้ำเปล่าหนึ่งขวด นั่งจิบเหมือนคนเมา ทั้งที่แค่น้ำเปล่า...แต่มันก็ขมจนกลืนไม่ลง
เขาไม่ได้โกรธ ไม่ได้คิดจะแฉ ไม่ได้คิดแม้แต่จะส่งแชทให้ใครดูสิ่งเดียวที่วนอยู่ในหัวคือคำว่า
“แล้วที่ผ่านมา...เค้าเห็นเราเป็นอะไร?”
เขาไม่ได้คิดว่าพี่นนท์จะรักเขาไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายต้องตอบแทนทุกอย่างแต่เขาคิดว่า “ความไว้ใจ” มันน่าจะมีค่าอะไรสักอย่าง
“พี่นนท์คือไอดอลผมเลยครับ”
เขาไม่ได้อิจฉาไม่ได้อยากแย่งแสง แค่รู้สึกว่า…
“ต่อจากนี้…พอแล้ว”
“บ้านหลังนี้...เจ้าของให้สิทธิ์ผมดูแลด้วยตัวเอง”
ไม่มีใครไลก์
ไม่มีใครทักมาขอ Co
แต่เบนซ์ยิ้มเพราะครั้งนี้ เขารู้ว่าเขา “ไม่ได้โกหกใคร”
ติดตามต่อที่ EP. 7 (3/4)