“ไม่มีบ้านหลังไหนใหญ่เกินความจริงใจ” – นิทานอสังหา EP.7 ปิดตำนานนายหน้าเจาะทรัพย์
บ้านหลังนี้เธออยู่กับพ่อมาตั้งแต่สมัยเด็กๆเมื่อพ่อเธอเสียไปเธอจึงวางแผนขายบ้านหลังนี้และตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่สวิตเซอร์แลนด์ถาวร เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ...ก่อนจะถึงบ้านเธอ “เห็นบ้านตัวเอง” บนมือถือก่อนแล้ว
โพสต์ TikTok คลิปรีวิว แคปชั่นขายทรัพย์ภาพนิ่งที่คุ้นตาและเสียงผู้ชายที่เธอไม่รู้จักชื่อ…อ้างตัวว่าเป็นผู้ได้รับมอบหมายในการดูแลบ้านของเธอ
เธอส่งข้อความไปหา เบนซ์ คนที่เธอไว้ใจผู้ชายที่ดูไม่หือไม่อือกับอะไร มีแต่รอยยิ้มและคำพูดที่ดูบ้านๆ แต่เชื่อมโยงระหว่างคำว่า “มืออาชีพ” กับ “จริงใจ” ได้ดีที่สุดในสายตาเธอ
“คนชื่อ ‘นนท์’ คือใคร?”
เบนซ์อ่านข้อความนั้น…นานมาก แต่ตอบกลับเพียงสั้น ๆ
“คนที่ผมเคยไว้ใจครับแล้วเขาก็หักหลังผม และหักหลังพี่...โดยที่พี่ไม่เคยรู้จักเขาเลย”
เธอพิมพ์กลับว่า
“พรุ่งนี้สะดวกมาเจอกันที่บ้านพี่ไหม? พี่อยากฟังจากปากเบนซ์โดยตรง”
เบนซ์เล่าเรื่องทุกอย่าง ทั้งตอนที่ส่งภาพให้ ทั้งตอนที่เห็นนนท์โพสต์ ทั้งตอนที่รับโทรศัพท์จากคนที่เคยไว้ใจ เขาเล่าทั้งหมดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
แต่ผมไม่เคยให้เขาไปพูดแทนพี่ และไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะไปตั้งราคาขายเอง
โดยไม่ผ่านพี่แม้แต่คำเดียว…”
ชื่อของนนท์เริ่มโผล่ในคอมเมนต์ กลุ่มนายหน้าเริ่มพูดถึง อดีตลูกทีมเริ่มขุดโพสต์เก่าและคนในวงการเริ่มพูดปากต่อปากว่า
“เอาอีกแล้ว!!! เจาะเสร็จ ทำตัวเป็นเจ้าของ”
“ให้ข้าวหมายังรู้สึกดีกว่าร่วมงานกับคนชื่อนนท์อีก”
“เอเจ้นท์.jpg โดนแหกละครับท่านผู้ชม”
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขา “ทำแบบนี้” มันแค่เป็นครั้งแรกที่ “เจ้าของบ้าน” เลือกจะพูด อดีตลูกทีมเริ่มทยอยแชทเข้ามา บางคนส่งข้อความว่า
บางคนโพสต์ว่า
“ผมเคยโดนพี่นนท์บอกว่าไม่ต้องโคกับเจ้าของ ถ้าหาทางติดต่อเองได้ก็ไม่ต้องแบ่งผมโง่ที่เชื่อเขา”
บางคนพิมพ์ตรง ๆ ว่า
“คนแบบนนท์ต้องกินข้าวผ่านธูป”
เขาเริ่มลบโพสต์เก่าอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะโพสต์ที่เกี่ยวกับบ้านของแอล คลิปถูกกดลบ Caption ถูกแก้ โพสต์หายไปหลาย 10 รายการในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่สิ่งที่เขาลบไม่ได้คือ “ความทรงจำของผู้คน” ที่รู้แล้วว่า...ภาพลักษณ์ของเขา มันไม่ใช่ของจริง
ตอนบ่าย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหน้าจอแสดงชื่อว่า “แม่”นนท์ลังเลอยู่หลายวินาทีก่อนจะกดรับ
เขานิ่งนาน...แล้วในที่สุดเสียงก็หลุดออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
เขาโพสต์อีกครั้งในคืนนั้น ไม่ใช่โพสต์ขายแต่เป็นโพสต์ขอโทษ ไม่มีชื่อคน ไม่มีการแท็ก
มีแค่รูปท้องฟ้า…กับข้อความสั้น ๆ
แชร์น้อยมากมีแต่คอมเมนต์ที่เป็น pattern ตามๆกันมาว่า “สู้ ๆ นะพี่นนท์” เพราะนี่คือจุดที่ทุกคนรู้แล้วว่า
มันเลยทำให้โพสที่โพสออกไปไม่ได้รับความสนใจเหมือนที่แล้วมาจากคนที่เคยเป็น Someone กลายเป็น Noone ในช่วงเวลาอันสั้น
ลูกค้าคนนี้ ที่เคยถูกเมินจากนนท์ สุดท้าย...กลายเป็นผู้ซื้อที่แฮปปี้ที่สุดเท่าที่เบนซ์เคยดูแลมา
ดิลจบ เบนซ์ได้ค่าคอมเต็มไม่มีการโคดิลที่เบนซ์เคยจะปล่อยจอย ปล่อยให้ลอยไปกับความผิดหวังตอนนี้คือดิลที่ทำให้เบนซ์จับเงินล้านเป็นครั้งแรก วันโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินแอลเดินมายืนข้างเบนซ์ ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีคำพูดยาว
เธอแค่ยิ้มแตะไหล่เขาเบา ๆ แล้วพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและชัดเจนว่า
หลังจากโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้น เบนซ์เดินออกจากกรมที่ดิน ไม่ได้ถ่ายเซลฟี่ไม่ได้โพสต์สลิปเขาเพียงแค่กลับบ้านเปิดมือถือ แล้วเห็นโพสต์ของใครคนหนึ่งขึ้นมาในไทม์ไลน์… เป็นโพสต์ของ “คุณแอล” เจ้าของบ้านหลังนั้น
เขาอ่านข้อความทีละบรรทัด
สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือคลิปนี้กลับดังขึ้นมาอย่างเงียบๆถูกแชร์ในกลุ่มนายหน้าเพจอสังหาฯ และแม้แต่เพจของวงการ HR, นักออกแบบ, บริการลูกค้า ฯลฯ
“เบนซ์ไม่ได้ขายแค่บ้าน...แต่เขาเคารพความเป็นเจ้าของของผู้อื่น”
“นี่คือสิ่งที่วงการต้องการมากกว่า content ที่เร้าใจ”
“รบกวนมาขายบ้านให้พี่หน่อยนะ”
“พี่ยอมเซ็นสัญญาปิดเลยก็ได้”
“ขอแค่น้องช่วยดูแลมันเหมือนบ้านน้องเองก็พอ”
“อยากให้เบนซ์ดูแลบ้านให้”
“บ้านพี่ไม่ได้ขายแพงแต่หาคนที่มีความตั้งใจขายให้”
“ถ้าคุณเบนซ์รับดูแล พวกเราจะไม่คุยกับนายหน้าคนอื่นเลยค่ะ”
ตอนนี้… เขาไม่ต้อง ตามหา ทรัพย์อีกต่อไป เพราะ “ทรัพย์ที่ดี” เริ่มตามหาเขาแทนแล้ว
“บางคนสำเร็จด้วยการแย่งบางคนสำเร็จด้วยการเหยียบแต่บางคน…สำเร็จด้วยความเงียบ ที่หนักแน่นพอจะทำให้ทุกคนอยากเดินตาม”