โดนโกง !!! ค่าเช่า โอนเงินค่ามัดจำให้แล้ว ติดต่อไม่ได้ ทำแบบนี้เลย

ช่วงหลังๆมักจะได้ข่าวว่ามีมิจฉาชีพที่ทำตัวเป็นนายหน้า หลอกให้ลูกค้าโอนค่ามัดจำแล้วเชิดเงินหนีไปเลยอยู่บ่อยครั้ง โดยมักใช้อุบายสร้างประกาศที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดและเร่งให้ลูกค้าโอนเงินให้ก่อนเพื่อจองห้องไว้ก่อนห้องจะหลุด ทำให้ลูกค้าหลายคนตัดสินใจโอนเงินให้โดยไม่ระวัง

เราอยากจะแจ้งเตือนเรื่องการโอนเงินทุกครั้ง ควรทำการโอนไปที่บัญชีเจ้าของบ้านหรือคอนโดเท่านั้นซึ่งวิธีการตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของสามารถทำได้เบื้องต้นดังนี้

ดีที่สุด คือ ขอสำเนาโฉนดหน้าหลังเพื่อดูชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้น

อีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้คือขอดูบิลค่าน้ำหรือค่าไฟ ซึ่งปกติแล้วมักจะเป็นชื่อเจ้าของทรัพย์อยู่บนบิล

และที่สำคัญก่อนทำการโอนเงินให้ไป ให้ขอสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของทรัพย์ และตรวจสอบชื่อในบัตรประชาชนว่าตรงกันกับชื่อในเลขบัญชีที่เราจะโอนไปให้ไหม

ส่วนการขอสอบถามข้อมูลเจ้าของห้องที่นิติบุคคล สมัยนี้อาจทำไม่ได้แล้วเพราะมี พรบ. ป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล นิติจึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ (ยกเว้นบางนิติที่สามารถคุยได้)

การขอตรวจสอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทรัพย์ถือเป็นเรื่องที่เราสามารถขอได้ เพราะเรากำลังจะโอนเงินไปให้ ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องจองห้องจริงๆการตรวจสอบตรงนี้จะสำคัญมาก

ซึ่งโดยปกติแล้วหากเจ้าของห้องได้รับการร้องขอให้ยืนยันความเป็นเจ้าของทรัพย์ ก็จะไม่ติดขัดข้องอะไรอยู่แล้ว เพราะเขากำลังจะได้รับเงินจอง

ซึ่งหากเราตรวจสอบตามขั้นตอนนี้แล้ว จะเป็นการป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวงเราได้พอสมควร

หากโดนโกงไปแล้วล่ะ !!!

แต่หากเราได้ทำการโอนไปแล้วและพบว่าได้ถูกหลอกและโกงเงินไป เราสามารถดำเนินคดีได้ตามนี้


#วิธีเอาเงินคืน คือ แจ้งความให้เร็วที่สุด เพราะคดีมีอายุความ 3 เดือนเท่านั้น

1.ไปโรงพักแจ้งเจ้าหน้าที่ #อย่าแจ้งเพื่อแค่ลงบันทึกประจำวันเป็นอันขาด ให้แจ้งความ "ขอแจ้งความจับดำเนินคดี"

เอกสารที่ต้องเตรียมไปแจ้งความ

1.1 ภาพ โปรไฟล์ของพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ขายสินค้า
1.2 โพสต์ ที่ประกาศขายสินค้า
1.3. แชท ข้อความการพูดคุยระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
1.4. บัญชี ธนาคารที่โอนเงินไป
1.5. สลิป การโอนเงินชำระค่าสินค้า

***หมายเหตุ เอกสารตามข้อ 1 และ 2 ควรปรากฎ ที่อยู่ หรือ URL (ลิ้งค์ประกาศ) ของพ่อค้า-แม่ค้า โดยทำการถ่ายภาพ หรือแคปเจอร์ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์

2. เอกสารที่ต้องได้จากตำรวจ เพื่อไปขออายัดบัญชี เมื่อทางเจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันแล้ว จะออกหนังสือตรวจสอบรายการเดินบัญชี(สเตทเม้น) ไปยังธนาคาร มาประกอบสำนวนการสอบสวน สิ่งที่เราต้องขอจากตำรวจ เพื่อนำไปให้ธนาคารอายัดบัญชีผู้กระทำผิดต้องมี

2.1 เอกสารจากเจ้าหน้าที่ต้องมีตราครุฑประทับด้วย
2.2 พอได้เอกสารแล้ว ให้ไปธนาคาร ของผู้กระทำผิด ที่เราโอนเงินไป(สาขาไหนก็ได้ ที่ใกล้บ้านเรา) บอกเจ้าหน้าที่ว่า เราต้องการเงินคืน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารมาให้กรอก ก็กรอกไปตามเจ้าที่บอก และอย่าลืมว่าระบุ "ต้องการเงินคืน" ธนาคารจะทำการอายัดบัญชีทั้งหมด ผู้กระทำผิดคนนั้น จะไม่สามาถทำธุรกรรมการเงินใด้เลย แม้แต่ที่เดียว ทุกธนาคารจนกว่า จะเคลียร์กับเราก่อน หรือ เคลียร์กับธนาคารนั้นๆก่อน

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร จะได้ช่วยติดตามเอาทรัพย์คืน และเอาผิดกับมิจฉาชีพ

ทำอย่างไรจะลงโทษพวกนี้ได้อย่างเด็ดขาด !!!

การแจ้งความคดียักยอกทรัพย์ถือเป็นคดีความที่สามารถยอมความกันได้ หลายครั้งทำให้มิจฉาชีพไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเมื่อถูกจับได้ก็มักจะไกล่เกลี่ยและหาเงินมาคืนผู้เสียหาย และก็ไปทำแบบนี้อีกวนไปเรื่อยๆ

เชื่อหรือไม่ว่าผู้กระทำผิดหลายๆคน ไม่เกรงกลัวกฎหมายโดนและโดนจับมามากกว่า 2-3 ครั้งแล้ว ก็ยังกระทำความผิดแบบเดิมๆอยู่ เพราะจะใช้วิธีการไกล่เกลี่ยและรอดตัวไปได้ทุกครั้ง

หากต้องการแจ้งความให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษหนัก ให้แจ้งความในคดี พรบ. คอมพิวเตอร์ซึ่งมีโทษหนัก โดยให้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหา “นำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” จะทำให้เป็นคดีที่ยอมความกันไม่ได้และเป็นคดีอาญาที่มีโทษสูง